AgnosHealth Logo

แพ็กเกจตรวจโควิด

แพ็กเกจตรวจโควิด

google form logo

1. เลือกแพ็กเกจ กรอกข้อมูล และเวลาที่ต้องการ

money logo

2. โอนเงินเพื่อยืนยันการจอง

officer logo

3. แจ้งชื่อในการจองกับเจ้าหน้าที่หน้างาน

รายละเอียดบริการ

RT PCR

ตรวจ RT-PCR

1,000 บาท

DRIVE THRU(1,300 บาท)

ทราบผลไวใน 18 ชม.

เหมาะสำหรับเดินทางต่างประเทศหรือต้องการผลที่แม่นยำสูง

EXPRESS RT-PCR

EXPRESS RT-PCR

2,200 บาท

DRIVE THRU(2,500 บาท)

ทราบผลไวใน 2 ชม.

เหมาะสำหรับเดินทางต่างประเทศหรือต้องการผลที่แม่นยำสูง

ทราบผลแบคทีเรียและไวรัสในระบบทาง เดินหายใจ 22 ชนิด

ANTIGEN TEST KIT

ANTIGEN TEST KIT

250 บาท

DRIVE THRU (400 บาท)

ทราบผลไวใน 1 ชม.

เหมาะสำหรับเดินทางในประเทศ

ANTIBODY Test

ตรวจภูมิโควิด (ANTIBODY)

600 บาท

ไม่มีบริการ DRIVE THRU

ทราบผลไวใน 2 ชม.

  • หมายเหตุ:
  • 1. สามารถจองคิวได้ล่วงหน้า 1 สัปดาห์
  • 2. ตัดรอบการจองในแต่ละวันเวลา 21:00
  • 3. แลปมีเวลาพักตอน 12:00-13:00น.
RT PCR fast results

ยืนยันผลตรวจได้เหมือนกับ ผลตรวจจากทางโรงพยาบาล

Online Certificate available

รับผลตรวจผ่านทาง ออนไลน์ได้

RT PCR Lowest Price and Best price

ราคาคุ้มค่าและ ได้มาตรฐาน

Q&A ยอดฮิต❗️รู้ก่อนตรวจแลปโควิดกับ AGNOS

1. ผลของแลปต่างจากของโรงพยาบาลอย่างไร?

  • ผลตรวจจากแลปได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การ แพทย์ สามารถใช้ยืนยันผลตรวจได้เหมือนของโรงพยาบาล

2. ผลตรวจครอบคลุมสายพันธุ์ใดบ้าง?

  • ทางแลปสามารถตรวจพบโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้ รวมถึงสายพันธุ์อัลฟ่า เบต้า แกมม่า แลมบ์ดา และเดลต้า.

3. มีใบรับรองแพทย์ไหม?

  • ไม่มีใบรับรองแพทย์ แต่มีใบรับรอง ผลตรวจจากแลป สามารถใช้ยืนยัน ผลเพื่อเดินทางได้

4. แลปสามารถออกเอกสารพิเศษ (ประเทศญี่ปุ่น)ให้ได้ไหม ?

  • หากต้องการเข้าประเทศญี่ปุ่น สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเตรียมเอกสารพิเศษ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

5. ผลมีแบบ hard copy (ฉบับพิมพ์) หรือไม่?

  • ส่วนมากทางแลปจะส่งผลผ่านทาง Line หรือ Email ของ ลูกค้า ผลตรวจ ATK สามารถรอรับผลได้ทันที แต่ผลของ RT-PCR สามารถมารับที่แลปได้ในวันถัดไป (*ไม่มีส่งทางไปรษณีย์ แต่ให้ Grab มารับได้)

6. ผลตรวจเป็นภาษาอะไร?

  • สามารถเลือกได้ ไทยหรืออังกฤษ เช่น เดินทางในประเทศ เป็นภาษาไทย หรือต่างประเทศ เป็นภาษาอังกฤษ

7. สามารถ walk in ได้หรือไม่?

  • ไม่สามารถ walk in เองได้ สำหรับการตรวจแบบ VIP เพื่อจำกัดจำนวนคนเข้าตรวจ

8. แลปเปิดให้บริการกี่โมง?

  • เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8.00 - 17.00 น. ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

9. จองคิวอย่างไร?

  • สามารถจองผ่านแอปพลิเคชัน Agnos https://agnoshealth.app.link/hpSnwNhOAxb กดรับสิทธิดีลพิเศษ

10. แลปอยู่ที่ไหน?

  • PCT Lab ซอย จรัญสนิทวงศ์ 67 ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด กรุงเทพฯ 📍 https://goo.gl/maps/AN3iJP8jPBrt6odt9

11.มีที่จอดรถไหม?

  • มีที่จอดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์

ไปประเทศไหนต้องตรวจ RT-PCR หรือ ATK ?

ทุกเรื่องของ โควิด-19 !

หลังจากผ่านวิกฤตโควิด 19 มาได้ 2 ปีกว่าแล้ว หลายประเทศเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้โดยไม่ต้องกักตัว หรือต้องเตรียมเอกสารวัคซีน รวมถึงวีซ่าใดๆเลย

แต่อาจยังมีบางประเทศที่ยังคงใช้มาตราการคุมเข้มอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการกักตัว หรือผลตรวจโควิด 19 ในรูปแบบต่างๆ แล้วมีประเทศไหนบ้างล่ะ..ที่ยังต้องใช้ผลตรวจโควิด 19 ? แล้วต้องใช้แบบไหน ? ตรวจเมื่อไหร่ ?  วันนี้ Agnos จะพาไปดูประเทศที่ต้องใช้กัน ! 

ก่อนที่เราจะไปดูกันว่ามีประเทศไหนที่ยังต้องใช้ผลตรวจ rt pcr หรือ ATK เนี่ย เรามาทำความรู้จักกับความแตกต่างของประเภทของการตรวจกันก่อนว่ามีอะไรบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร ? RT PCR และ ATK แตกต่างกันอย่างไร ? เรามาเริ่มกันที่ ATK กันเลย !

ATK หรือ Antigen Test Kit เป็นการเก็บสารคัดหลั่งจากบริเวณจมูก กระพุ้งแก้ม ลำคอและน้ำลาย โดย ATK เนี่ยจะตรวจหาเชื้อโควิด 19 หรือองค์ประกอบของไวรัส

ข้อดีของ ATK

  • ตรวจที่ไหนก็ได้
  • หาซื้อง่าย
  • รอผลเพียง 15-30 นาทีเท่านั้น

ข้อจำกัดของ ATK

  • อาจมีความคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง หากมีเชื้อน้อย หรือเครื่องตรวจชำรุด โดยสามารถเว้นระยะการตัวไป 1-3 วันได้หากต้องการตรวจอีกครั้ง
  • อาจจำเป็นต้องมีเชื้อในร่างกายมาแล้วกว่า 5-14 วันจึงจะตรวจพบ
  • หากพบว่าตรวจแล้วติดเชื้อ หรือขึ้นสองขีด อาจจำเป็นต้องตรวจ RT PCR อีกครั้ง

 RT PCR หรือ Real-Time PCR เป็นการเก็บสารคัดหลั่งจากบริเวณจมูก กระพุ้งแก้ม และลำคอ เช่นเดียวกัน แต่ข้อแตกต่างหลักของการ RT PCR คือต้องทำการตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เช่น ตรวจที่โรงพยาบาล หรือแลป เป็นต้น ส่วนมากหลังจากเก็บตัวอย่างเรียบร้อยแล้ว จะนำไปตรวจหา เชื้อโควิด 19 ต่อที่ห้องแลปนั่นเอง  โดย RT PCR เนี่ยจะตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด 19

ข้อดีของ RT PCR

  • มีความแม่นยำสูง
  • ไม่จำเป็นต้องตรวจซ้ำ
  • เป็นวิธีที่ทั่วโลกใช้และองก์กรอนามัยโลกยอมรับ
  • ติดเชื้อเพียง 3 วัน หรือได้รับเชื้อมาน้อย ก็สามารถตรวจเจอได้

ข้อจำกัดของ RT PCR

  • อาจจำเป็นต้องรอผลนานกว่า ATK

โดยส่วนมาก หากเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กหรือโรงพยาบาลที่ไม่ได้มีห้องแลปอยู่ในโรงพยาบาล ต้องส่งผลตรวจไปที่ห้องแลปอื่นๆ จึงอาจทำให้ผลของการตรวจนั้น อาจมีความล่าช้าอยู่บ้าง แต่หากเราเลือกที่จะตรวจ RT PCR กับทางแลปโดยตรง อาจได้ผลที่ไวกว่าและราคาย่อมเยากว่านั่นเอง

เราได้ทำความรู้จักกับวิธีการตรวจ โควิด 19 กันไปแล้ว ต่อมาเรามาทำความรู้จักกับ สายพันธ์ุของโควิด 19 ที่กลายพันธุ์ไปมากกว่า 4-5 สายพันธุ์แล้ว !  เรามาลองเช็กกันว่า เราอัพเดทถึงสายพันธุ์ไหนกันแล้วบ้าง ? หากพูดถึงโควิด 19 ก็คงต้องมีคำว่า เชื้อโคโรนา มาคู่กันด้วย แต่สองอย่างนี้ แตกต่างกันยังไงล่ะ ? 

โควิด 19 มีเชื้อก่อโรคที่ชื่อว่า ไวรัสโคโรนา หรือชื่อทางการคือ SARS-CoV-2 ส่วนคำว่า COVID-19 นั้น ย่อมาจาก CO แทนคำว่า corona VI แทนคำว่า virus D แทนคำว่า disease  19 แทนคำว่า 2019 จึงกลายมาเป็น COVID-19 ที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบันนั่นเอง

สายพันธ์ุของโควิด 19

รามาเริ่มกันที่สายพันธุ์แรกของ โควิด 19 กันก่อนเลย ! เชื่อว่าหลายๆคนอาจไม่รู้ว่า โควิด 19 ชนิดแรกมีชื่อสายพันธุ์ว่า…

โควิดสายพันธุ์ S (Serine) สายพันธุ์นี้เชื้อว่าเกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน มีการระบาดครั้งแรกในเดือนมีนาคม ปี 2563 นั่นเอง

อาการเบื้องต้น

  • มีไข้ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป
  • ไอแห้ง
  • อาจมีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก
  • รู้สึกอ่อนเพลีย
  • อาจสูญเสียการรับรส หรือกลิ่นได้

โควิดสายพันธุ์อัลฟ่า (Alpha - B.1.1.7)

เป็นสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษในช่วงประมาณเดือน กันยายน 2563 และระบาดมาในไทยในช่วงมกราคม ปี 2564

โควิด 19 สายพันธุ์อัลฟ่าแพร่ระบาดไปได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ S กว่า 30-40​% และหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันของร่างกายเราได้ดีทำให้ในช่วงปี 2564 สายพันธุ์อัลฟ่าแพร่ระบาดไปกว่า 138 ประเทศทั่วโลก และทำให้อัตราการติดเชื้อสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดอีกด้วย

อาการเบื้องต้น

  • มีไข้ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป
  • ไอแห้ง เจ็บคอ
  • อาจมีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก
  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • ปวดหัว
  • เจ็บกล้ามเนื้อ
  • หนาวสั่น
  • อาจมีอาการท้องเสีย หรืออาเจียนได้
  • อาจสูญเสียการรับรส หรือกลิ่นได้

โควิดสายพันธุ์เบต้า (Beta)

โควิดสายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ที่แพร่ระบาด เมื่อเดือนตุลาคม 2563 และพบครั้งแรกในไทยที่จังหวัดนราธิวาส ในช่วงมิถุนายน 2564

เนื่องจากสายพันธุ์นี้ได้มีการกลายพันธุ์ในจุดสำคัญ ทำให้สามารถแพร่ระบาดได้ไวขึ้นอีก 50% สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันของเราได้ดีอีกด้วย ทำให้ผู้ที่เคยติดโควิดสายพันธุ์อื่นแล้ว ก็สามารถติดเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์นี้ได้ซ้ำอีกด้วย

อาการเบื้องต้น

  • ไอบ้างเล็กน้อย
  • มีไข้ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป
  • เจ็บคอ
  • เจ็บกล้ามเนื้อ
  • ปวดหัว
  • หนาวสั่น
  • อาจมีอาการท้องเสีย หรืออาเจียนได้
  • อาจมีอาการตาแดง
  • ผื่นขึ้น
  • อาจสูญเสียการรับรส หรือกลิ่นได้

โควิดสายพันธุ์เดลตา (Delta)

โควิด 19 สายพันธุ์ที่เชื่อว่ามาจากประเทศอินเดีย ที่มีความสามารถในการแพร่ระบาดที่ไวขึ้น หากเราติดตามข่าวในช่วงนั้น ประเทศไทยเองก็มีการระบาดของสายพันธุ์นี้เป็นวงกว้างเช่นกัน

สายพันธุ์เดลต้ายังได้กลายพันธุ์ไปเป็น โควิดสายพันธุ์เดลตา พลัส (Delta Plus) อีกด้วย โดยสายพันธุ์เดลต้าพลัส มีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์เดลต้าปกติ เพราะนอกจากจะแพร่กระจายได้เร็วแล้ว ยังมีความสามารถในการจับหรือเกาะเซลล์บริเวณปอดได้อีกด้วย ทำให้เชื้ออาจลงปอดได้ง่ายนั่นเอง นอกจากนี้สายพันธุ์เดลตา ยังมีสายพันธุ์ย่อยๆกว่าอีก 4 สายพันธุ์ ถึงแม้จะไม่ได้รุนแรงเท่าเดลต้าก็ตาม

อาการเบื้องต้น

  • มีอาการเหมือนไข้หวัดธรรมดา
  • อาจมีไข้
  • ปวดหัว
  • เจ็บคอ
  • ไอเล็กน้อย
  • ส่วนมากไม่ได้มีการสูญเสียการรับรสหรือกลิ่น

โควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา (Lambda)

ถึงแม้อาจไม่คุ้นชื่อมากนัก เนื่องจากไม่ได้มีรายงานมีการระบาดในประเทศไทย แต่สายพันธุ์นี้ มีความรุนแรงกว่าและแพร่ระบาดได้ไวสายพันธุ์เดลตา จึงทำให้ทั่วโลกกังวลอยู่ไม่น้อยในช่วงนั้น

หนึ่งในเหตุผลที่น่ากังวลที่สุดสำหรับสายพันธุ์นี้คือ มีรายงานกล่าวว่า สายพันธุ์นี้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของแอนตี้บอดีที่ช่วยต่อต้านเชื้อไวรัสด้วย

โควิดสายพันธุ์เอปซิลอน (Epsilon)

เป็นโควิดสายพันธุ์ที่ระบาดเป็นวงกว้างในแระเทศแถบยุโรป โดยได้มีการค้นพบว่าสายพันธุ์เอปซิลอน มีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์ปกติกว่า 18.6-24.6% 

นอกจากนี้ในประเทศสหรัฐฯ ยังมีการค้นพบอีกว่าสายพันธุ์นี้สามารถหลบภูมิคุ้มกันได้ และอาจทำให้ประสิทธิภาพวัคซีน mRNA ลดลงได้

โควิดสายพันธุ์โอไมครอน หรือโอมิครอน (Omicron)

เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่แพร่กระจายเร็วมาก และแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในประเทศไทย นอกจากนี้สายพันธุ์โมไอครอน ได้มีการกลายพันธุ์ส่วนโปรตีนหนามมากกว่า 32 ตำแหน่ง ทำให้เชื้อไวรัสต้านทานหรือหลบหลีกภูมิคุ้มกันของเราได้ รวมถึงสามารถเข้าไปในร่างกายของเราได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ถึงแม้โอไมครอนสามารถติดซ้ำได้ แต่ส่วนมากเชื้อจะอยู่ที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้ไม่ลงปอด ผู้ป่วยจึงมีอาการไม่รุนแรงนั่นเอง

อาการเบื้องต้น

  • ไม่ค่อยมีไข้ หรือไข้ต่ำ
  • ไอต่อเนื่อง
  • มีอาการเจ็บคอ
  • อาจรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อย
  • หากอาการุนแรง อาจมีอาการปอดอักเสบ

ในแต่ละประเทศมีมาตราการควมคุมที่แตกต่างกันออกไป ของประเทศไทยเรานั้น ได้ผ่อนผันการกักตัวและการตรวจโควิด 19 ไม่ว่าจะเป็น RT PCR หรือ ATK แล้ว แต่ยังอาจมีบางประเทศที่ยังต้องใช้ผลตรวจโควิด ทั้ง RT PCR และ ATK อยู่ มีประเทศไหนบ้าง ?

ประเทศจีน

เอกสารที่ต้องใช้ในการเดินทางจากไทยไปประเทศจีน

  • ผลตรวจ RT PCR

สำหรับบุคคลทั่วไป :

  • การเก็บตัวอย่างตรวจทั้ง 2 ครั้ง จะต้องมีระยะห่างกันอย่างน้อย 24 ชั่วโมง โดยหนึ่งในนั้นจะต้องเก็บตัวอย่างตรวจภายใน 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
  • เช่น หากเครื่องบินออกเวลา 15.00 น. ของวันที่ 30 มิถุนายน การเก็บตัวอย่างตรวจครั้งแรกภายใน 48 ชั่วโมง จะเป็นเวลาใดก็ได้ของวันที่ 28 มิถุนายน และการเก็บตัวอย่างตรวจภายใน 24 ชั่วโมง จะต้องทำหลังเวลา 15.00 น. ของวันที่ 29 มิถุนายน นั่นเอง

สำหรับผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อและผู้ที่มีอาการต้องสงสัย :

โดยหมายถึง ผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อโควิด รวมถึงผู้ที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดอักเสบจากโควิดหรือเคยมีผลตรวจ RT-PCR ที่เป็นบวก ต้องได้รับผลตรวจ RT-PCR ที่เป็นลบ จำนวน 2 ครั้งในสถานพยาบาลที่ประเทศไทยได้รับการรับรอง (ต้องมีระยะห่างของการเก็บตัวอย่างทั้ง 2 ครั้ง อย่างน้อย 24 ชั่วโมง) หลังจากครบ 14 วัน (นับจากผลรายงานทั้งหมด 2 ฉบับ โดยเลือกผลตรวจฉบับล่าสุดของการตรวจข้างต้น) จึงจะสามารถยื่นขอรหัสสุขภาพได้ การยื่นขอรหัสสุขภาพจะอ้างอิงจากข้อกำหนดการตรวจ RT-PCR ก่อนออกเดินทางของบุคคลทั่วไปที่เดินทางไปยังประเทศจีน

สำหรับผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อและผู้ที่มีอาการต้องสงสัย

  • โดยหมายถึง ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดและผู้ที่มีอาการต้องสงสัยจำเป็นต้องสำรวจสุขภาพตัวเองเป็นเวลา 5 วัน ถ้าไม่มีอาการหรือความผิดปกติใดๆในช่วง 5 วันก็สามารถยื่นขอรหัสสุขภาพได้ 
  • การยื่นขอรหัสสุขภาพจะอ้างอิงจากข้อกำหนดการตรวจ RT-PCR ก่อนออกเดินทางของบุคคลทั่วไปที่เดินทางไปยังประเทศจีน
  • การยื่นขอรหัสสุขภาพ : สำหรับผู้ที่ไม่ใช่สัญชาติจีน สามารถยื่นขอรหัสสุขภาพได้ที่เว็บไซต์ยื่นขอรหัสสุขภาพได้ที่นี้เลย : https://hrhk.cs.mfa.gov.cn/H5/. 
  • ทางกงสุลไม่ได้กำหนดรายชื่อสถานพยาบาลการตรวจ RT PCR อีกต่อไปแล้ว โดยสามารถไปตรวจที่ไหนก็ได้ที่ประเทศไทยรับรอง
  • ผู้ยื่นขอรหัสสุขภาพจะต้องเดินทางไปตรวจพร้อมแสดงเอกสารประจำตัวเมื่อเข้ารับการตรวจและการตรวจ RT PCR
  • การตรวจและการตรวจ RT PCR จะต้องเก็บตัวอย่างที่เยื่อบุด้านหลังโพรงจมูก โดยระบุเป็นภาษาอังกฤษให้ชัดเจนว่า “RT-PCR”

ข้อมูลอัปเดท : 15 กรกฎาคม 2565

ประเทศอินเดีย

  • สำหรับคนไทย ยังจำเป็นต้องมีผลตรวจ RT PCR
  • โดยผู้เดินทางจะต้องแนบผลตรวจโควิด 19 แบบ RT-PCR ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชม.ก่อนเดินทาง
  • และเมื่อถึงประเทศอินเดียแล้ว อาจมีการสุ่มตรวจ โควิด 19 ในทุกๆเที่ยวบิน เมื่อได้รับการเก็บตัวอย่างแล้ว สามารถเดินทางต่อได้ แต่หากผลตรวจเป็นบวก จะต้องทำการรักษาและกักตัวตามมาตรการต่อไป

ประเทศญี่ปุ่น

  • หากฉีดวัคซีนครอบ 3 เข็มที่ทางองก์การอนามัยโลก (WHO) รับรองแล้ว สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นโดยไม่ต้องใช้ผลตรวจ RT PCR ได้
  • แต่หากยังฉีดไม่ครบ หรือไม่ได้ฉีด จำเป็นต้องตรวจและแสดงใบรับรองผลตรวจโควิด RTPCR ที่เป็นลบ ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง

**นอกจากนี้หากต้องการที่จะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น ลูกค้า PCT Lab สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย ทาง PCT จะจัดเตรียมเอกสารให้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

สำหรับใครที่ต้องการตรวจโควิด 19 ในราคาที่ย่อมเยาทั้งแบบ ATK และ RT PCR ทาง Agnos มีแพ็กเกจและแลปที่ได้คุณภาพมาแนะนำให้ฟังกัน !  แพ็กเกจตรวจโควิด 19 กับ Agnos ที่ PCT LAB PCT LAB เป็นห้องแลปที่ได้คุณภาพ เทียบเท่าโรงพยาบาลชั้นนำ ได้ผลไว และสามารถส่งผลให้ได้ทั้งภาาาอังกฤษและภาาาไทยภายใน 1 วัน !

Standard Package

  • ราคาเพียง 1,000 บาท
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการตรวจ เพื่อใช้ผลเพื่อยืนยันในประเทศ หรือเพื่อเดินทางข้ามจังหวัด
  • ตรวจหาเชื้อ COVID-19
  • รู้ผลภายใน 24 ชม.
  • มีเอกสารรับรองผลจากแลปเป็นภาษาไทย

พร้อมห้องรับรอง VIP✨

กำหนดเวลาจองได้เอง

จองล่วงหน้า 1 วัน

Express RT PCR Package

  • ราคาเพียง 2,200 บาท
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลรู้แบบเร็ว หรือจำเป็นต้องเดินทางต่างประเทศ
  • ตรวจหาเชื้อ COVID-19 และไวรัสอีก 4 ชนิด
  • รู้ผลภายใน 2 ชม.
  • มีเอกสารรับรองผลจากแลปเป็นภาษาอังกฤษ
  • **ต้องถึงสถานที่ตรวจก่อน 15-20 นาที

พร้อมห้องรับรอง VIP✨

กำหนดเวลาจองได้เอง

จองล่วงหน้า 1 วัน

Drive-Thru RT PCR Package

  • ราคาเพียง 1,800 บาท
  • บริการตรวจในรถ
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลรู้แบบเร็ว หรือจำเป็นต้องเดินทางต่างประเทศ
  • รู้ผลภายใน 18 ชม.

Drive-Thru Express RT PCR Package

  • ราคาเพียง 2,500 บาท
  • บริการตรวจในรถ 
  • ตรวจหาเชื้อ COVID-19 และไวรัสอีก 4 ชนิด
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้ผลด่วน
  • รู้ผลภายใน 2 ชม.
  • **ต้องถึงสถานที่ตรวจก่อน 15-20 นาที

Drive-Thru Antigen Test

  • ราคาเพียง 400 บาท
  • บริการตรวจในรถ
  • รู้ผลภายใน 1 ชม.
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้เดินทางในประเทศหรือข้ามจังหวัด

Antibody Test Package

  • ราคาเพียง 800 บาท
  • ใช้ตรวจภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีน หรือ ติดเชื้อ
  • รู้ผลภายใน 3 ชม.
📍 Google Maps: https://goo.gl/maps/AN3iJP8jPBrt6odt9 

บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่?

ติดต่อสอบถาม

บุคคลทั่วไป

ภาคธุรกิจ

สมัครร่วมทีม Agnos