โรค โรคหลอดเลือดสมองส่วนหลังตีบหรือแตก (Cerebellar stroke) เกิดจากอะไร และวิธีการรักษาเบื้องต้นเป็นอย่างไร

วันที่โพสต์:
feature-image-blurfeature-image

เขียนโดย

แชร์บทความ

share-optionshare-optionshare-optionshare-option

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค

โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย การทำงานของสมองหยุดชะงัก เกิดขึ้นกับส่วนใดของสมองก็ได้ อาการของผู้ป่วยจะแตกต่างกันไปตามบริเวณของสมองที่ขาดเลือด ความผิดปกติของหลอดเลือดสมองที่ทำให้สมองขาดเลือด แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

  1. หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (ischemic stroke) เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง พบได้ประมาณ 80% หลอดเลือดสมองอุดตันเกิดได้จากลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นในบริเวณอื่นไหลไปตามกระแสเลือดจนไปอุดตันที่หลอดเลือดสมอง หรืออาจเกิดจากมีลิ่มเลือดก่อตัวในหลอดเลือดสมอง และขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนอุดตัน ส่วนสาเหตุของหลอดเลือดสมองตีบอาจเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดลดลง
  2. หลอดเลือดสมองแตก(hemorrhagic stroke) พบได้ประมาณ 20% ของโรคหลอดเลือดสมอง เกิดจากหลอดเลือดมีความเปราะบางร่วมกับภาวะความดันโลหิตสูง ทำให้บริเวณที่เปราะบางนั้นโป่งพองและแตกออก

อาการของโรค

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองส่วนหลัง มักมีอาการดังต่อไปนี้

  • เวียนศีรษะ บ้านหมุน เป็นรุนแรงและเป็นนาน ไม่ดีขึ้นแม้กินยาบรรเทาอาการเวียนศีรษะ
  • มักมีอาการทรงตัวไม่ได้ ล้ม
  • อาจมีอาการปวดศีรษะ ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด

แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรค

อาศัยประวัติ การตรวจร่างกายทางระบบประสาท ร่วมกับ

  • การตรวจสมองด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (computerized tomography) เพื่อดูว่าสมองมีภาวะขาดเลือดหรือภาวะเลือดออกในสมองหรือไม่ หรือ
  • การตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (magnetic resonance imaging) เพื่อดูเนื้อสมอง หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดที่คอ เป็นวิธีการที่ไม่เจ็บปวดและมีประสิทธิภาพสูง

แนวทางการดูแลรักษา

การรักษาขึ้นกับสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองว่าเป็นหลอดเลือดสมองตีบหรือหลอดเลือดสมองแตก โดยจะมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน

  • กรณีหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน เป้าหมายของการรักษาคือทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ โดยทางเลือกในการรักษามีหลายวิธี ในบางกรณีแพทย์อาจให้ยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งพบว่าจะได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการและอาการแสดงของโรคหลอดเลือดสมองและรีบมาโรงพยาบาลภายในระยะเวลาไม่เกิน 4.5 ชั่วโมง
  • กรณีหลอดเลือดสมองปริแตกหรือฉีกขาด เป้าหมายของการรักษาคือการควบคุมปริมาณเลือดที่ออกด้วยการรักษาระดับความดันโลหิต ในกรณีที่เลือดออกมาก แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสมองที่อาจเกิดขึ้นหากมีการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิต

แพทย์เฉพาะทางแนะนำ

อายุรแพทย์ระบบประสาท, กุมารแพทย์ ระบบประสาท กรณีอายุน้อยกว่า 15 ปี

ข้อควรระวัง

ผู้ที่มีอาการที่เข้าได้กับโรคหลอดเลือดสมองส่วนหลังตีบหรือแตกควรเข้าไปพบแพทย์ทันที

ข้อมูลเพิ่มเติม

http://med.tu.ac.th/department/surgery/wp-content/uploads/sites/3/2018/11/CVA.pdf https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK470416/

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด
article-cover
  • ศรีษะ
  • ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ (Cluster headache)

ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ (Cluster headache)

โรคสุดฮิต ! ปวดหัวไมเกรน ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค เรียกอีกอย่างว่าโรคปวดศีรษะเป็นชุดๆ อาการปวดประเภทนี้พบบ่อยในวัยรุ่นไปถึงวัยกลางคน โดยเฉพาะเพศชายที่สูบบุหรี่ ยังไม่ทราบกลไกการเกิดโรคที่ชัดเจน แต่คาดว่า เกิดจาก ความผิดปกติของเส้นประสาทและระบบประสาทอัตโนมัติ อาการของโรค จะมีอาการปวดอย่างรุนแรงด้านเดียวบริเวณรอบตา เหนือเบ้าตา หรือ ขมับ ร่วมกับมีอาการตาแดง น้ำตาไหล คัดจมูก น้ำมูกไหล หนังตาบวม เหงื่อออกที่หน้าและหน้าผาก รู้สึกกระสับกระส่าย ถ้าไม่ได้รักษาอาการปวดจะเป็นอยู่นาน 15 นาที - 3 ช