โรค โรคซึมเศร้า (Major depressive disorder) เกิดจากอะไร และวิธีการรักษาเบื้องต้นเป็นอย่างไร


เขียนโดย
ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค
ความเศร้าปกติ (normal sadness) เป็นอารมณ์ด้านลบ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวกับบุคคลทั่วไป เมื่อเผชิญกับการสูญเสีย ผิดหวัง หรือความรู้สึกอึดอัดทรมาน ภาวะซึมเศร้า (depression) ต่างจากความเศร้าปกติตรงที่ เมื่อเผชิญกับเหตุการณ์การสูญเสีย ผิดหวัง ก็มักจะมีอาการเศร้ามากเกินจากปกติ หรือนานกว่าปกติ ไม่ดีขึ้นแม้ได้รับกำลังใจหรืออธิบายด้วยเหตุผล มักรู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้ มองโลกในแง่ร้าย รู้สึกผิด รู้สึกตัวเองไร้ค่าไม่มีความหมาย นอกจากนั้นอาจเป็นความรู้สึกเศร้า ท้อแท้ รู้สึกผิด กับเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าหรือคิดไปเองก็ได้ โรคซึมเศร้า (depressive disorder) เป็นโรคทางจิตเวชที่พบได้บ่อย โดยจะมีลักษณะอาการของภาวะซึมเศร้าดังที่กล่าวข้างต้น โดยอารมณ์หรือความคิดเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน กิจวัตรประจำวัน และการเข้าสังคม ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง หรืออยากตายด้วย สาเหตุการเกิดโรค ประกอบด้วย ปัจจัยทางชีวภาพ ได้แก่ ความผันผวนของระดับฮอร์โมน ผลจากพันธุกรรม หรือการเปลี่ยนแปลงเสียสมดุลของสารสื่อประสาทในสมองที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ ทำให้เกิดเป็นภาวะที่มีความผิดปกติของอารมณ์และความคิดตามมา ปัจจัยด้านจิตใจหรือสิ่งแวดล้อม เป็นผลมาจากสถานการณ์ความตึงเครียดทางอารมณ์ เช่น อาการซึมเศร้าหลังจากคู่แต่งงานเสียชีวิต ตกงาน หย่าร้าง หรือมีสภาวะความเครียดเรื้อรัง เช่น ชีวิตสมรสมีปัญหาขัดแย้งไม่รู้จบ ความกดดันจากงานที่ต้องรับผิดชอบ หากเป็นภาวะซึมเศร้าในวัยเด็กอาจมีสาเหตุจากความตึงเครียดในครอบครัว เหตุการณ์สะเทือนใจอย่างรุนแรง หรือการถูกบีบคั้นอย่างมาก ส่วนภาวะซึมเศร้าในวัยชรา อาจเกิดเพราะปัญหาช่องว่างระหว่างวัย มีชีวิตโดดเดี่ยว หรือมีภาวะสะเทือนใจหลังเกษียณ (สูญเสียคุณค่าในตน ไม่มีงาน มีความรู้สึกว่าไร้สมรรถภาพ)
อาการของโรค
- มีอารมณ์เศร้า ซึ่งอารมณ์เศร้าจะมีอยู่เกือบตลอดทั้งวันและเป็นทุกวันบางวันอาจเป็นมากบางวันอาจเป็นน้อย
- รู้สึกเบื่อ ขาดความสนใจหรือความเพลิดเพลินในกิจกรรมต่างๆที่เคยชอบทำ
- ปัญหาการกิน มักจะเบื่ออาหาร น้ำหนักลดลง หรือบางรายอาจมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้นผิดปกติ กินมากจนน้ำหนักเพิ่ม
- ปัญหาการนอน มักนอนไม่หลับ หลับดึกแต่จะตื่นเช้าและไม่สดชื่น หรือบางรายจะหลับมากกว่าปกติ ง่วงนอนทั้งวัน
- ทำอะไรเชื่องช้า พูดช้า เคลื่อนไหวช้าลง
- รู้สึกอ่อนเพลียหรือไร้เรี่ยวแรง เป็นทั้งวันและแทบทุกวัน
- รู้สึกตนเองไร้ค่า มักโทษตัวเอง หรือรู้สึกผิดต่อตัวเอง
- มีปัญหาการใช้สมาธิ หรือมีความคิดความอ่านช้าลง
- คิดอยากตายไม่อยากมีชีวิตอยู่ คิดถึงเรื่องการตายอยู่เรื่อยๆ หรือบางรายพยายามฆ่าตัวตายหรือมีแผนฆ่าตัวตาย ถ้ามีอาการดังข้างต้น 5 อาการขึ้นไป โดยอาการเป็นอยู่นานกว่า2 สัปดาห์ ก็จะเข้าได้กับลักษณะของโรคซึมเศร้า ควรเข้ารับคำปรึกษาและการรักษาจากแพทย์หรือจิตแพทย์ต่อไป
แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรค
แพทย์จะวินิจฉัยภาวะนี้ได้จากการซักประวัติอาการ ประวัติโรคประจำตัว ประวัติโรคซึมเศร้าในครอบครัว ประวัติการใช้ยาหรือสารเสพติดต่างๆ รวมถึงซักถามผลกระทบของอาการเจ็บป่วยต่อการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อประกอบกันเป็นเกณฑ์การวินิจฉัย บอกระดับความรุนแรงของโรค และหาสาเหตุก่อโรคอื่นๆด้วย
แนวทางการดูแลรักษา
การรักษาโรคซึมเศร้า มีทั้งรักษาด้วยการใช้ยาและไม่ใช้ยา ซึ่งในบางคนอาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ขึ้นกับอาการและความรุนแรงของโรค
- การรักษาด้วยจิตบำบัด เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดีในการลดอาการซึมเศร้า มีวิธีบำบัดหลายรูปแบบ โดยจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัดจะพิจารณารูปแบบตามความเหมาะสมกับอาการของผู้ป่วย
- การรักษาด้วยการใช้ยา ยาที่ใช้ในการรักษามีหลายกลุ่มหลายชนิด เช่น Nortriptyline, Sertraline, Fluoxetine, Trazodone แพทย์ผู้ดูแลจะเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับอาการของคนไข้แต่ละคนต่อไป ขั้นตอนการรักษาทั้งหมดจะมีจิตแพทย์เป็นผู้ประเมินอาการ เพื่อพิจารณายาที่จะใช้ในการรักษา โดยเริ่มในขนาดยาที่ต่ำก่อน แล้วนัดติดตามผลการรักษา ก่อนปรับขนาดยาขึ้นทุกๆ 1-2 สัปดาห์ จนเห็นผลการรักษาที่ดี
แพทย์เฉพาะทางแนะนำ
จิตแพทย์, จิตแพทย์เด็ก กรณีอายุน้อยกว่า 15 ปี
ข้อควรระวัง
- การกินยาไม่ได้ทำให้อาการดีขึ้นในทันที แต่ต้องใช้เวลาเพื่อให้สารสื่อประสาทในสมองเข้าสู่สมดุล และต้องมาพบจิตแพทย์เพื่อประเมินผลการรักษา หรือปรับขนาดยาที่ทานเป็นระยะ
- เมื่ออาการดีขึ้น มักจะต้องกินยาต่อเนื่องไปอีก 4-6 เดือน แล้วจึงค่อยลดขนาดยาลงจนหยุดยาได้ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง
- หากมีความคิดอยากตายบ่อยๆ หรือถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตาย ควรรีบปรึกษาจิตแพทย์ผู้ให้การรักษา หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/document/160331145939017730.pdf https://www.manarom.com/blog/depression_disorder.html





