โรค ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) เกิดจากอะไร และวิธีการรักษาเบื้องต้นเป็นอย่างไร

วันที่โพสต์:
feature-image-blurfeature-image

เขียนโดย

แชร์บทความ

share-optionshare-optionshare-optionshare-option

สัญญาณเตือน..ตับอ่อนอักเสบ

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค

ตับอ่อน คือ อวัยวะที่อยู่ด้านหลังกระเพาะอาหาร ใกล้กับลำไส้เล็กส่วนต้น มีหน้าที่ช่วยย่อยอาหารและคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน (acute pancreatitis) คือ ภาวะที่ตับอ่อน เกิดการอักเสบรุนแรงเฉียบพลัน โดยเป็นการอักเสบที่บริเวณเซลล์ของตับอ่อน เกิดขึ้นจากการที่น้ำย่อยในตับอ่อนไหลผ่านท่อของตับอ่อนไม่ได้ ทำให้น้ำย่อยนั้น ย่อยเนื้อเยื่อตับอ่อนแทนจึงทำให้เกิดการอักเสบขึ้น โดยจะเป็นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ตับอ่อนอักเสบอาจสร้างความเสียหายแก่หัวใจ ปอด หรือ ไต สาเหตุหลักของโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ได้แก่

  • การดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาณมาก ติดต่อกันนาน ส่วนใหญ่ดื่มมากกว่า 50 กรัมต่อวัน ไม่น้อยกว่า 5 ปี
  • นิ่วในถุงน้ำดี (gallstone) มักเกิดจากนิ่วที่หลุดออกมาจากถุงน้ำดีและมีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร
  • สาเหตุอื่น ๆ เช่น ระดับแคลเซียมในเลือดสูง ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง ยาชนิดต่างๆ เนื้องอกตับอ่อน โรคตับอ่อนที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด

อาการของโรค

  • ปวดท้องอย่างรุนแรงบริเวณท้องส่วนบน อาจปวดร้าวลามไปที่หลังได้ โดยอาการปวดมักจะเป็นอยู่ประมาณ 2-3 วัน
  • มีอาการปวดท้องที่รู้สึกปวดมากขึ้น เมื่อรับประทานอาหาร
  • มีอาการกดแล้วเจ็บ เมื่อสัมผัสหน้าท้อง หรือ ท้องอืด
  • มีไข้หรือไม่มีก็ได้
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ในคนที่มีอาการรุนแรงสามารถมีภาวะขาดน้ำ และภาวะช็อก (กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็น ชีพจรเต้นเบาหรือเร็ว ความดันต่ำ)
  • อาจมีอาการตัวเหลือง/ตาเหลืองได้

แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรค

  • ตรวจทางห้องปฏิบัติการทั่วไป เช่น ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจการทำงานของตับ ตรวจระดับน้ำตาล ตรวจระดับแคลเซียม ตรวจไตรกลีเซอไรด์
  • เจาะเลือดตรวจหาเอนไซม์ อะไมเลส (amylase) และ ไลเปส (lipase)
  • การอัลตราซาวนด์ (ultrasound)
  • ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
  • การส่องกล้องตรวจ ท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)

แนวทางการดูแลรักษา

  • การให้สารน้ำผ่านทางหลอดเลือด เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ภาวะช็อก และรักษาสมดุลของเกลือแร่
  • ให้ยาบรรเทาอาการปวด ตามความจำเป็น
  • งดรับประทานอาหารและน้ำ เพื่อลดการทำงานของตับอ่อนจนกว่าอาการอักเสบจะทุเลาลง หรือจนกว่าผู้ป่วยจะรับประทานอาหารทางปากได้
  • ได้รับการผ่าตัดนำเนื้อเยื่อ ที่ได้รับความเสียหายหรือตายแล้วออกไป ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรง เพราะการติดเชื้อ อาจทำให้เนื้อเยื่อตับอ่อนตายได้
  • ผ่าตัดท่อน้ำดี หรือ อาจจำเป็นต้องนำถุงน้ำดีออก หากตรวจพบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีหรือนิ่วในทางน้ำดี โดยหลังจากนำนิ่วในถุงน้ำดีออกและการอักเสบได้หายไปแล้ว ตับอ่อนก็จะกลับมาทำงานเป็นปกติ

แพทย์เฉพาะทางแนะนำ

อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหาร, กุมารแพทย์ ระบบทางเดินอาหาร กรณีอายุน้อยกว่า 15 ปี

ข้อควรระวัง

โรคตับอ่อนอักเสบเป็นโรคที่สามารถมีอาการรุนแรงได้และมักดำเนินโรคไปในทางที่แย่ลงอย่างรวดเร็วถ้าไม่ได้รับการรักษา ผู้ที่มีอาการเข้าได้กับโรคนี้ควรเข้ารับการรักษาโดยเร็ว

ข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/january-2014/pancreatic-diseases

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด
article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • ลำไส้อักเสบ (Non-bacterial gastroenteritis)

ลำไส้อักเสบ (Non-bacterial gastroenteritis)

ลำไส้อักเสบ ต้องไปหาหมอเลยไหม? ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ลำไส้อักเสบ ที่การอักเสบไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไว้รัส การติดเชื้อสามารถทำให้มีอาการท้องเสีย และ อาเจียนได้ ลำไส้อักเสบสามารถเกิดได้ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก สาเหตุของการติดเชื้อมาจาการสัมผัสที่ติดเชื้อมาก่อนหรือพื้นผิวสิ่งของต่างๆที่มีเชื้อโรคอยู่ แล้วไม่ได้ล้างมือจนเป็นสาเหตุทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ หรือการติดเชื้ออีกทางเกิดจากการทานอาหารที่มีเชื้อโรคอยู่โดยตรง อาการของโรค การติดเชื้อในลำไส้ทำให้มีอาการท

article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • ภาวะฉุกเฉินทางช่องท้อง (Secondary Bacterial Peritonitis)

ภาวะฉุกเฉินทางช่องท้อง (Secondary Bacterial Peritonitis)

ภาวะฉุกเฉินทางช่องท้อง คืออะไร? ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ภาวะฉุกเฉินทางช่องท้อง หรือโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบทุติยภูมิ (Secondary Bacterial peritonitis) เป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพที่ชัดเจนในช่องท้องที่ทำให้เกิดการอักเสบ ตัวอย่างเช่น แผลในกระเพาะอาหารทะลุ, ไส้ติ่งอักเสบจนแตก, ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสามารถเกิดได้จากสาเหตุใดๆ ก็ตามที่ทำให้อวัยวะภายในช่องท้องเกิดการฉีกขาด จนทำให้เกิดการติดเชื้อภายในช่องท้องตามมาได้ การอักเสบที่เกิดขึ้นเกิดมาจากการระคายเคืองจากสารต

article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • ริดสีดวงทวาร ที่มีภาวะแทรกซ้อน (Strangulated/Thrombosed Hemorrhoids)

ริดสีดวงทวาร ที่มีภาวะแทรกซ้อน (Strangulated/Thrombosed Hemorrhoids)

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ริดสีดวงทวาร หมายถึง การมีกลุ่มของหลอดเลือดดำบริเวณปลายสุดของลำไส้ใหญ่และที่ขอบรูทวารหนักโป่งพองและยื่นออกมา แบ่งเป็น 2 ชนิด 1. ริดสีดวงทวารชนิดเป็นภายใน หมายถึง ริดสีดวงทวารที่เกิดเหนือทวารหนักขึ้นไปตามปกติจะไม่โผล่ออกมาให้เห็น และ คลำไม่ได้และมักจะถูกคลุมด้วยเยื่อลำไส้ใหญ่ตอนปลายสุด จะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดในขณะที่ยังไม่มีอาการแทรกซ้อน 2. ริดสีดวงทวารชนิดเป็นภายนอก หมายถึง ริดสีดวงที่เกิดขึ้นบริเวณปากรอยย่นของทวารหนัก สามารถมองเห็น และ คลำได้หลอดเลือดที่โป่งพ

article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • ไส้เลื่อนขาหนีบที่มีภาวะแทรกซ้อน (Complicated Inguinal Hernia)

ไส้เลื่อนขาหนีบที่มีภาวะแทรกซ้อน (Complicated Inguinal Hernia)

ไส้เลื่อนขาหนีบที่มีภาวะแทรกซ้อน คุณผู้ชายควรอ่านไว้ก่อน! ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ไส้เลื่อน (Hernia) คือ ภาวะที่ลำไส้เคลื่อนตัวออกมาจากตำแหน่งเดิม และทำให้เห็นเป็นลักษณะคล้ายก้อนตุง ซึ่งเกิดจากความอ่อนแอของผนังช่องท้องที่มีมาแต่กำเนิด หรือเกิดภายหลังเช่น จากการผ่าตัด ภาวะแรงดันที่มากผิดปกติภายในช่องท้อง เนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ อาทิ เบ่งจากภาวะท้องผูก การไอหรือจาม การยกของหนัก โดยภาวะไส้เลื่อนสามารถแบ่งออกเป็นประเภทตามบริเวณตำแหน่งการเกิดโรคที่พบได้บ่อยดังนี้ * ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ (Ingu

article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • ไวรัสตับอักเสบเฉียบพลัน (Acute Viral Hepatitis)

ไวรัสตับอักเสบเฉียบพลัน (Acute Viral Hepatitis)

ตับอักเสบเฉียบพลัน ภัยคุกคามใกล้ตัว! ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย โดยปกติจะอยู่หลังกระบังลมด้านขวาของร่างกาย หน้าที่ของตับเช่น เป็นคลังสะสมอาหาร เช่น แป้ง ไขมัน โปรตีน เอาไว้ใช้ และ ปล่อยเมื่อร่างกายต้องการ, สังเคราะห์สารต่างๆ เช่น น้ำดี สารควบคุมการแข็งตัวของเลือด ฮอร์โมน และ กำจัดสารพิษหรือสิ่งแปลกปลอม เช่นเชื้อโรค หรือยา โรคไวรัสตับเสบเกิดจากการติดเชื้อตับอักเสบ ปัจจุบันมีเชื้อไวรัสตับอักเสบที่สำคัญ 5 ชนิดคือ เอ, บี, ซี, ดี, และ อี ซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคตับอ