โรค กล้ามเนื้อหลังอักเสบ (Muscle strain of the back) เกิดจากอะไร และวิธีการรักษาเบื้องต้นเป็นอย่างไร

วันที่โพสต์:
feature-image-blurfeature-image

เขียนโดย

แชร์บทความ

share-optionshare-optionshare-optionshare-option

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค

กล้ามเนื้ออักเสบ คือภาวะตึง ปวดหรืออักเสบเรื้อรังของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งตามกล้ามเนื้อมัดเดียวหรือหลายมัด มักมีสาเหตุจากการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ หรือมากเกินไปจากการทำกิจกรรมประจำวัน โดยเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย สาเหตุหรือสิ่งกระตุ้นที่ทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อไหล่มีการหดรั้ง หรือยึดตึง

  • ลักษณะท่าทางที่ผิดปกติ เช่น ไหล่ห่อ ไหล่งุ้ม
  • การเกร็งใช้กล้ามเนื้อมัดนั้นนิ่งอยู่นาน เกินขีดความสามารถของกล้ามเนื้อนั้นที่จะทนได้ เช่น การนั่งเขียนหนังสือนานเป็นหลายชั่วโมง นั่งทำงานคอมพิวเตอร์ตลอดวัน
  • การใช้โต๊ะเก้าอี้ที่ไม่เหมาะสม ผิดสัดส่วน โต๊ะสูงหรือเตี้ยเกินไป แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์หรือที่วางเมาส์วางสูงเกินไป ทำให้ต้องยกไหล่อยู่ตลอดเวลา เอื้อมเกร็งจับเมาส์ที่อยู่ไกล
  • ภาวะหรือโรคบางอย่างก่อให้เกิดกล้ามเนื้อยึดตึงกดเจ็บได้ เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ภาวะขาดสารอาหารหรือได้รับไม่เพียงพอ โรคกระดูกก้านคอเสื่อมกดทับเส้นประสาทของไหล่ข้างนั้น ๆ
  • ภาวะการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อที่รุนแรงจากอุบัติเหตุ
  • ภาวะความเครียดไม่ว่าจะทางกายหรือใจ

อาการของโรค

อาการปวดจากกล้ามเนื้อ มีได้หลายลักษณะ เช่น ปวดมากจนขยับร่างกายส่วนนั้น ๆ ไม่ได้เลย ปวดหนักๆ ปวดเสียว ปวดเมื่อยล้าง่าย ปวดตึง ปวดหรือเสียวแปล๊บเมื่อเอื้อมแขนหรือยกแขนในบางอิริยาบถ ปวดเมื่อเอี้ยวตัว เช่น เอื้อมหยิบของที่อยู่สูง เอี้ยวหยิบของไกลตัว เป็นต้น อาการปวดดังกล่าวอาจไม่ได้เกิดตลอดเวลา อาจเกิดบางครั้งบางคราว เป็น ๆ หาย ๆ ปวดเวลาใดก็ได้ ในบางคนอาจมีอาการชายิบ ๆ บริเวณที่ปวดร่วมด้วย จนทำให้กลัวว่าจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต

แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรค

การวินิจฉัยมักใช้การซักประวัติและการตรวจร่างกายเป็นหลัก ในบางรายอาจใช้การตรวจอื่นเพิ่มเติม เช่นการเอกซเรย์ การตรวจเลือด ถ้ามีอาการอื่นๆที่ชวนสงสัยว่าเป็นจากสาเหตุของโรคที่อันตรายมากกว่าที่ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบขึ้นมาได้

แนวทางการดูแลรักษา

การรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อที่เกิดจากสาเหตุทั่วไป จากการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน สามารถรักษาหรือบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้ด้วยต้วเอง ดังนี้

  • พักผ่อนร่างกายจากกิจกรรมที่เป็นสาเหตุ
  • รับประทานยาแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการ เช่นพาราเซตตามอล
  • ประคบร้อนและประคบเย็น ในช่วง 1-3 วันแรก ประคบเย็นด้วยน้ำแข็งห่อผ้าในบริเวณที่มีอาการปวดของกล้ามเนื้อ และหลังจากนั้นประคบร้อนเพื่อบรรเทาอาการและลดการอักเสบ
  • ยืดและบริหารกล้ามเนื้อที่มีอาการปวดด้วยความระมัดระวัง
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หรือออกกำลังกายประเภทโยคะ หรือการนั่งสมาธิ
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเต้นแอโรบิก ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้มีสุขภาพที่ดีได้
  • หลีกเลี่ยงการออกแรงยกของหนักในช่วงที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ

แพทย์เฉพาะทางแนะนำ

แพทย์กายภาพบำบัด, กุมารแพทย์ กรณีอายุน้อยกว่า 15 ปี

ข้อควรระวัง

ปกติแล้วอาการปวดกล้ามเนื้อที่ไม่รุนแรงสามารถรักษาได้ด้วยตนเองที่บ้าน แต่หากเกิดอาการเหล่านี้ควบคู่กับอาการปวดกล้ามเนื้อ ควรไปพิจารณาเข้าพบแพทย์

  • รักษาด้วยตัวเองแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
  • มีอาการปวดกล้ามเนื้อที่รุนแรงขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือพบอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • มีผื่นแดง ร้อน หรือบวมขึ้นในบริเวณที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ
  • พบอาการปวดกล้ามเนื้อหลังเปลี่ยนยาที่ใช้อยู่ประจำ

ข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.bangkokinternationalhospital.com/th/health-articles/article-type/muscle-pain https://www.sikarin.com/content/detail/2/ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง-อันตรายแต่รักษาหายได้

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

article-cover
  • กล้ามเนื้อ, กระดูก
  • ปวดข้อทั่วไป (Arthralgia)

ปวดข้อทั่วไป (Arthralgia)

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค อาการปวดข้อสามารถมีผลต่อบริเวณต่างๆ มากมายของร่างกาย เช่น นิ้วมือ ข้อมือ นิ้วเท้า หรือเข่า และมักจะมีอาการขยับข้อได้ไม่เต็มที่ (ฝืดข้อ) กดเจ็บ และบวม อาการปวดข้อ ข้ออักเสบ หรือ ข้อเสื่อมซึ่งสามารถพบได้บ่อยที่สุด อาจจะมีอาการอักเสบของข้อใดข้อหนึ่งหรือมากกว่าร่วมอยู่ด้วย และเกิดขึ้นในรูปแบบที่แตกต่างกัน สาเหตุที่พบบ่อยของอาการปวดข้ออาจเกิดจาก ข้อเสื่อม แพลง หรือร้าวจากการได้รับบาดเจ็บ หรืออุบัติเหตุ ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสให้เกิดอาการปวดข้อได้แก่ ข้อต่อที่สึกหรอมาจา

article-cover
  • กล้ามเนื้อ, กระดูก
  • เส้นเอ็นไหล่อักเสบ (Rotator cuff syndrome)

เส้นเอ็นไหล่อักเสบ (Rotator cuff syndrome)

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค เส้นเอ็นข้อไหล่ คือเส้นเอ็นขนาดเล็ก 4 เส้น ที่อยู่บริเวณรอบข้อไหล่ เส้นเอ็นกลุ่มนี้เป็นส่วนที่ต่อเนื่องมาจากกล้ามเนื้อสะบัก และผ่าน ข้อไหล่และยึดเกาะกับ ส่วนบนของกระดูกต้นแขน ทำหน้าที่ช่วยในการขยับไหล่ในมุมและท่าทางต่างๆกัน เช่นกางแขน ยกแขน หมุนไหล่ เป็นต้น การฉีกขาดอาจเริ่มจากการถลอกบริเวณด้านบนของเส้นเอ็น ซึ่งเกิดจากการเสียดสีของหินปูนบริเวณกระดูกกับตัวเส้นเอ็น หรืออาจเกิดจากภาวะเสื่อม ของตัวเส้นเอ็นเอง หรือเกิดจากการใช้งานหรืออุบัติเหตุ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เกิดเส้

article-cover
  • กล้ามเนื้อ, กระดูก
  • ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome)

ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome)

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ออฟฟิศซินโดรม คือ ชื่อเรียกกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) รวมถึงอาการปวดจากการอักเสบของเส้นเอ็นและเนื้อเยื่อ ซึ่งกลุ่มอาการนี้พบได้บ่อยในผู้ที่นั่งทำงานในออฟฟิศ แต่ผู้ที่ไม่ได้ทำงานออฟฟิศที่มีท่าทางการทำงานที่ไม่ถูกต้องซ้ำๆ นานๆ ก็เป็นภาวะนี้ได้เช่นเดียวกัน เช่น คนขับรถ พนักงานโรงงาน หรือแม้กระทั่งนักศึกษา หรือผู้ที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์และมือถือนานๆ สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการดังกล่าว ได้แก่ * ท่าทางการทำงานที่ไม่เหมา

article-cover
  • กล้ามเนื้อ, กระดูก
  • ข้อไหล่ติด (Frozen shoulder)

ข้อไหล่ติด (Frozen shoulder)

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค โรคข้อไหล่ติด เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อหุ้มไหล่ ทำให้มีการหนาตัวและเกิดการหดรั้ง สาเหตุของการเกิดยังไม่เป็นที่แน่ชัด ส่วนมากพบจากการบาดเจ็บจึงทำให้เกิดการจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ เช่น มีกระดูกปลายแขนหักใส่เฝือกนาน 4 - 6 สัปดาห์ หรือผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บของเอ็นกล้ามไหล่โดยมีอาการปวดจนต้องหยุดการใช้งาน ทำให้เกิดภาวะข้อไหล่ติดได้เมื่อมีการไม่ได้ขยับข้อไหล่เป็นเวลานาน อาการของโรค อาการของโรคข้อไหล่ติด มี 3 ระยะ ได้แก่ ระยะปวด ระยะข้อติด และระยะฟื้นตัว 1