AgnosHealth Logo

วันมะเร็งโลก !

cancer

แก้ไขล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2566

เขียนโดย

Agnos Team

Agnos Team

แชร์

ตรงกับวันที่  4 กุมภาพันธ์ ของทุกๆปี กำหนดขึ้นโดย องค์การอนามัยโลกและสมาคมต่อต้านมะเร็งสากล เพื่อบรรเทาปัญหาการเจ็บป่วย การเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง

รณรงค์ให้ผู้คนตรวจเช็กสุขภาพ และให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งอีกด้วย

มะเร็งเป็นหนึ่งในโรคอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตคนไปมากถึงปีละ 7 ล้านคน และคาดว่าอีก 17 ปีข้างหน้า จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเพิ่มถึง 13 ล้านคน

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้ามะเร็งกันก่อน…มันคืออะไร ทำไมแค่เอ่ยชื่อคนถึงกลัว ?

มะเร็งคืออะไร

มะเร็งคือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ที่เติบโตผิดปกติในอวัยวะส่วนต่างๆของเรา จนทำให้เป็นเป็นก้อนเนื้อร้ายที่ลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียง หรือ กระจายไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ โรคมะเร็งนั้นมีหลายแบบขึ้นอยู่กับจุดกำเนิดโรคและชนิดของเซลล์มะเร็ง

โดยทั่วไปมะเร็งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้

  1. มะเร็งที่มีจุดกำเนิดเยื่อบุอวัยวะต่างๆ (Carcinoma)
  2. มะเร็งที่มีจุดกำเนิดมาจากเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในไขกระดูก (Leukemia) ทำให้มีความผิดปกติของเม็ดเลือด
  3. มะเร็งที่มีจุดกำเนิดมากจากกระดูก (Sarcoma) กระดูกอ่อน ไขมัน กล้ามเนื้อ หรือ เส้นเลือด
  4. สมองและไขสันหลัง (Central Nervous System Cancer)
  5. มะเร็งที่มีจุดกำเนิดมาจากเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน (Lymphoma and Myeloma)



ระยะของมะเร็ง

ระยะของมะเร็งคือหนึ่งในข้อบ่งชี้ของความรุนแรง และบอกแนวทางของการรักษา

อย่างที่หลายๆคนรู้ โดยทั่วไปมะเร็งมี 4 ระยะ ได้แก่

มะเร็งระยะที่ 0

คือ มะเร็งระยะต้นๆ (Carcinoma in site) โดยจะอยู่บริเวณชั้นของเซลล์ปกติยังไม่แทรกเข้าไปในเนื้อเยื่อ

ปกติตรวจพบเซลล์ที่ผิดปกติบริเวณผิวนอกสุดและยังไม่ใช่เซลล์มะเร็ง แต่เซลล์ที่ผิดปกตินี้อาจกลายเป็นเซลล์มะเร็งและกระจายไปยังเนื้อเยื่อบริเวณอื่นได้

มะเร็งระยะที่ 1

โดยส่วนมากในระยะที่ 1  จะสามารถเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ หรือตาเปล่า เพราะมีขนาดตั้งแต่ 3-5 เซนติเมตร มะเร็งระยะนี้จะยังคงอยู่ในอวัยวะที่เกิดมะเร็งท่านั้น

มะเร็งระยะที่ 2

มะเร็งอาจกระจายออกไปในบริเวณใกล้เคียงอวัยวะที่กำเนิดมะเร็ง และอาจแพร่ไปยังอวัยวะหรือต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงด้วย

มะเร็งระยะที่ 3

มะเร็งอาจกระจายออกไปยังต่อมน้ำเหลือง ขนาดของก้อนอาจต่างกัน

มะเร็งระยะที่ 4

เซลล์มะเร็งกระจายออกไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ตับ ลำไส้ หรือปอด

นอกจากนี้เซลล์มะเร็งจะแบ่งตัว เติบโต และร่างกายของเราอาจไม่สามารถควบคุมการเติบโตลุกลามได้ มะเร็งอาจเข้าไปในอวัยวะใกล้เคียง โดยอาจเข้าผ่านกระแสเลือด หรือต่อมน้ำเหลืองได้ ซึ่งเรียกว่าการลุกลามแพร่กระจาย (Metastasis)

นอกจากนี้ 4 ระยะของมะเร็งยังสามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีกเป็น A B C หรือ 0 1 2 ด้วย เนื่องจากบางทีเซลล์อาจมีลักษณะเป็นเซลล์มะเร็ง แต่ยังไม่มีการรุกรานไปยังอวัยวะใกล้เคียง


เป็นมะเร็งปุ๊ป เท่ากับเสียชีวิตเลยมั้ย ?

อย่างที่เรารู้กันดีว่าระยะของมะเร็งและชนิดของมะเร็งนั้น มีส่วนสำคัญต่อการรักษาเป็นอย่างมาก


แล้วอะไรล่ะ คือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เราเป็นมะเร็ง ?

จริงๆแล้วปัจจัยเสี่ยงที่แท้จริงของ โรคมะเร็ง ยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจน เนื่องจากแต่ละคนมีร่างกาย หรือวิธีการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป

แต่ในปัจจุบันเราสามารถพอจะรู้จากปัจจัยเสี่ยงที่อาจไปกระตุ้นความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งได้ เช่น

  • อายุ
  • กรรมพันธุ์
  • ความไม่สมดุลทางฮอร์โมนในร่างกาย
  • การกินอาหารที่อาจไม่ถูกสุขลักษณะมากนัก เช่น อาหารไขมันสูง หรือการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ
  • การสูบบุหรี่
  • การใช้สารเคมี หรือได้รับสารเคมี
  • การได้รับรังสีต่างๆ เช่น รังสีเอกซเรย์ นิวเคลียร์ หรือแก๊ส ซึ่งหากได้รับปริมาณสูง เกินค่าที่กำหนด อาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งได้
  • การขาดการออกกำลังกาย

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ..ว่าเราเสี่ยงเป็นมะเร็งมั้ย ? มีสัญญาณอะไรบ้าง ?

  • เจ็บปวดเรื้อรังตามร่างกายที่ผิดปกติ มีจุดที่ปวดเรื้อรังเป็นเวลานาน
  • ตรวจพบก้อนผิดปกติตามร่างกาย เช่น ก้อนที่เต้านม ก้อนที่คอ หรือก้อนเนื้อที่ท้อง
  • ขับถ่ายอุจจาระ หรือปัสสาวะผิดปกติ เช่น ขับถ่ายหรือปัสสาวะปนเลือด มีสีดำ ลำถ่ายอุจจาระเล็กลง ขับถ่ายลำบากมากขึ้น
  • มีไฝเกิดใหม่ หรือ ไฝที่มีอยู่่เดิมรูปร่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น ขนาดมีการขยายใหญ่ขึ้น มีเลือดออกที่บริเวณไฝ ผิดปกติ หรือ มีอาการคัน
  • พฤติกรรมการกินอาหารเปลี่ยนไป เช่น ไม่ค่อยอยากอาหาร อิ่มเร็ว กินแล้วรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน กลืนลำบาก
  • มีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก เช่น ลดลง เพิ่มขึ้น อย่างไม่ทราบสาเหตุ
  • มีสารคัดหลั่ง หรือ เลือดออกผิดปกติ เช่น มีเลือดออกทางช่องคลอด มีเลือดออกทางทวารหนักทางทวารหนัก มีเลือดหรือน้ำออกหัวนม มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือ ตกขาวผิดปกติ


บางคนอาจคิดว่า เราแข็งแรง ไม่เป็นอะไรหรอก มะเร็งเป็นเรื่องไกลตัวเรา แต่จริงๆแล้วมะเร็งอาจใกล้ตัวกว่าที่เราคิด !


ในปี 2561 สถาบันมะเร็งแห่งชาติ คนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็ง วันละมากกว่า 300 คน หรือ ประมาณมากกว่า 130,000 คนต่อปี

5 อันดับมะเร็งที่พบบ่อยมากที่สุดในคนไทย คือ

  • มะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี
  • มะเร็งปอด
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
  • มะเร็งเต้านม
  • มะเร็งปากมดลูก


1. มะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี

มะเร็งตับ ส่วนใหญ่อาจเกิดจาก การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี หรือ ซี ตับอักเสบจากไขมันพอกตับ และได้รับสารเคมีบางชนิดมากเกินไป เช่น อะฟลาท็อกซิน ซึ่งมาจากเชื้อรา ที่ปนเปื้อนในอาหารแห้ง ธัญพืช ถั่วเหลือง ถั่วลิสง

ส่วน มะเร็งท่อน้ำดี เกิดจากการติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับเรื้อรัง ซึ่งอาจเกิดจากการกินอาหารดิบ โดยเฉพาะปลาดิบที่อาจมีการปนเปื้อนตัวพยาธิใบไม้ในตับ เช่น ปลาตะเพียน ปลาร้าดิบ ปลาส้ม

พยาธิใบไม้ในตับอาจอาศัยอยู่ที่เนื้อปลาและเกล็ดใต้ครีบปลา ซึ่งตัวพยาธิใบใม้ในตับจะเข้าไปสะสมบริเวณท่อทางเดินน้ำดี และทำให้เกิดการอักเสบ เมื่อเกิดการอับเสบเรื้อรังจนทำให้เซลล์แบ่งตัวผิดปกติ ก็จะทำให้เกิดเซลล์มะเร็งตามมา

2.มะเร็งปอด

ไม่จำเป็นต้องสูบบุหรี่ เราก็สามารถเป็น มะเร็งปอด ได้ !

มะเร็งปอด เกิดจากการเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติอย่างรวดเร็วและไม่สามารถควบคุมได้ จนอาจทำให้เกิดเป็นก้อนเซลล์ผิดปกติ

ส่วนมากเซลล์จะตรวจพบได้เมื่อมีขนาดใหญ่ และแพร่ไปตามบริเวณตามร่างกายอื่นๆ

โดยมะเร็งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดตามขนาดของเซลล์ได้ดังนี้

  • มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (small cell lung cancer) พบได้ประมาณ 10-15% เซลล์จสามารถเติบโตและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วมาก ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนมากจะรักษามะเร็งปอดชนิดนี้ด้วยใช้ยาหรือฉายรังสี

  • มะเร็งปอดชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก (non-small cell lung cancer) พบได้บ่อยกว่ามะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก แต่แพร่กระจายได้ช้ากว่าและสามารถรักษาให้หายได้โดยการผ่าตัดหากพบตั้งแต่เนิ่นๆ


3.มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักมักเกิดจากติ่งเนื้อขนาดเล็ก ที่เรียกว่า โพลิป (Polyp) เป็นเซลล์เนื้อผิดปกติ ที่งอกจากผนังลำไส้ มีขนาดประมาณปลายนิ้วก้อย เนื่องจากขนาดที่เล็กของติ่งเนื้อ จึงทำให้ผู้ป่วยมักไม่มีอาการผิดปกติ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 5-10 ปี ในการเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งลำไส้ ซึ่งหากสามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่เริ่มแรกและทำการตัดรักษาได้จนหมดจะเป็นการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่


4.มะเร็งเต้านม

มะเร็วเต้านม เป็นอีกหนึ่งชนิดมะเร็งที่ผู้หญิงเป็นกันมากที่สุด โดย 1 ใน 8 ของผู้หญิงจะเป็นมะเร็งเต้านม

ในปี 2020 มีผู้หญิง 2.3 ล้านคนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม และมีผู้เสียชีวิต 685,000 คนทั่วโลก

สิ้นปี 2020 มีผู้หญิงที่ยังมีชีวิตอยู่ 7.8 ล้านคนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นับได้ว่ามะเร็งเต้านมเป็นหนึ่งในมะเร็งที่แพร่หลายมากที่สุดในโลก

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ..ว่าเราเสี่ยงมั้ย ?

การสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับการตรวจเช็กมะเร็งเต้านม เนื่องจากในระยะแรกๆของมะเร็งเต้านมอาจไม่ได้มีอาการเจ็บปวดหรืออาการใดๆ จึงทำให้ผู้ป่วยอาจไม่รู้ตัวได้

ความผิดปกติ

  • คลำพบก้อนที่เต้านม
  • ขนาดหรือรูปร่างของเต้านมเปลี่ยนแปลงไป
  • ผิวหนังบริเวณเต้านมผิดปกติ เช่น มีรอยบุ๋ม รอยย่น ผิวคล้ายเปลือกส้ม หรือมีสะเก็ด
  • หัวนมผิดปกติ เช่น หัวนมมีการหดตัว หัวนมบอด คัน แดง
  • มีเลือดหรือของเหลวผิดปกติออกทางหัวนม
  • เจ็บที่เต้านม
  • มีก้อนที่รักแร้

5.มะเร็งปากมดลูก

โรคมะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer) ส่วนมากเกิดจากการติดเชื้อ ไวรัสฮิวแมนแปปิโลมา (Human Papilloma Virus) หรือ HPV ส่วนมากจะติดจากการมีเพศสัมพันธ์ สามารถติดได้ทั้งสองเพศ เพราฉะนั้นการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อตัวนี้ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ถือได้ว่าเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด

อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากลัว คือในระยะแรกๆ มะเร็งปากมดลูก จะไม่ค่อยแสดงอาการใดๆ หรือมีอาการที่ค่อนข้างทั่วไป จึงยากที่ผู้ป่วยจะรู้ตัวและคิดว่าอาการเหล่านี้คือสัญญาณเตือนของมะเร็งปากมดลูก นอกจากนี้หากได้รับเชื้อตัวนี้เข้าไป เท่ากับเราเสี่ยงเป็น มะเร็งปากมด ลูกทันที

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • เลือดออกจากช่องคลอด (แม้ไม่เป็นประจำเดือน)
  • เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
  • เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
  • ปัสสาวะไม่ค่อยออก
  • ปัสสาวะ อุจจาระเป็นเลือด
  • ปวดท้องน้อย
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • เหนื่อยง่าย รู้สึกอ่อนเพลีย
  • ตกขาวผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
  • ตกขาวปนเลือด

***หากมีอาการรุนแรง หรืออยู่ในระยะลุกลาม อาจมีอาการปวดหลัง ขาบวม และไตวายได้


การรักษามะเร็งมีวิธีอะไรบ้าง ?

การรักษา มะเร็ง นั้นมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็ง

โดยอาจใช้วิธีเดียว หรือ หลายวิธีร่วมกันได้

  • การผ่าตัด : จะผ่าเอาก้อนเนื้อมะเร็งออก
  • ใช้รังสีรักษามะเร็ง :  ใช้รังสีเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง
  • การทำฮอร์โมนบำบัด : ใช้ฮอร์โมนเพื่อหยุดการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  • การทำเคมีบำบัด : ใช้สารเคมีฆ่าเซลล์มะเร็ง

เราจะป้องกันมะเร็งได้ยังไงบ้าง ?

  • กินอาหารที่มีประโยชน์ และให้ครบ 5 หมู่
  • หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 5 วันต่อสัปดาห์ อย่างน้อยวันละ 30 นาที
  • ดื่มแอลกอฮอล์แต่พอดี
  • มีเพศสัมพันธุ์อย่างปลอดภัย เช่น ใช้ถุงยางอนามัย
  • หากจำเป็นต้องอยู่ท่ามกลางแดด ควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแดด เช่น ครีมกันแดด
  • ควรทราบประวัติคนที่เป็นมะเร็งในครอบครัว เพื่อทำการตรวจหาความเสี่ยงของตัวเอง
  • ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ


โดยทาง Agnos เองก็มีแพ็กเกจตรวจสุขภาพดีๆมาแนะนำ ตรวจครบจบทุกความกังวลที่ PCT แล็ป ที่ได้มาตราฐานเทียบเท่าโรงพยาบาลชั้นนำ !

ยิ่งตรวจพบได้ไว ก็จะยิ่งมีโอกาสรักษาหายได้มากขึ้น การตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ อาจเพิ่มโอกาสในการรักษาและลดความรุนแรงของมะเร็งได้

เราจึงอยากเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงย้ำเตือนให้ทุกคนคอยหมั่นเช็คร่างกายของตัวเอง และสังเกตอาการคนรอบข้างอยู่เสมอ ที่สำคัญที่สุด อาการป่วยเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย หากพบอาการผิดปกติใดๆดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุด

“เราขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกคนด้วยนะ”



อ้างอิง : https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/cancer

https://www.synphaet.co.th/มะเร็ง-คือ-อะไร/

https://www.bumrungrad.com/th/conditions/lung-cancer

https://www.prachachat.net/general/news-869575

https://www.wattanosothcancerhospital.com/all-about-cancer/general-information-about-cancer

https://www.khonkaenram.com/th/services/health-information/health-articles/med/cancer

https://www.wattanosothcancerhospital.com/all-about-cancer/general-information-about-cancer

https://www.sikarin.com/health

https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-services/gi-liver-center-th/gi-articles-th/item/2879-colon-cancer-th.html

https://www.agnoshealth.com/articles/pink-october

https://www.agnoshealth.com/articles/cervical-cancer-and-hpv-vaccine

https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/january-2007/10-ways-to-lower-your-cancer-risk

https://www.wattanosothcancerhospital.com/all-about-cancer/general-information-about-cancer

https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-services/gi-liver-center-th/gi-articles-th/item/2879-colon-cancer-th.html

https://www.agnoshealth.com/articles/pink-october

https://www.agnoshealth.com/articles/health-wellness-searchsymptoms

https://www.synphaet.co.th/

https://www.canceralliance.co.th/มะเร็งมีกี่ระยะ/

https://www.rama.mahidol.ac.th/cancer_center/th/protfolio/knowledge/gyne/servix

เขียนโดย

Agnos Team

Agnos Team

แชร์

บทความนี้มีประโยช์นสำหรับคุณหรือไม่ ?

บทความที่เกี่ยวข้อง

AgnosITCAInsuretech

Agnos Health คว้ารางวัล ชนะเลิศจากงาน Insuretech Connect Asia Awards in Thailand และเป็นตัวแทนในการแข่งขันระดับนานาชาติ ที่งาน ITC Asia 2024 ณ ประเทศสิงคโปร์

Agnos Health นำ AI ตรวจโรคด้วยตนเอง เข้าร่วมเสนอไอเดียในรายการ Win Win WAR Thailand สุดยอดนักธุรกิจแบ่งปัน เพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในระบบสุขภาพไทย

ตรวจสุขภาพสมองBrainDi

BrainDi พลิกโฉมการตรวจสุขภาพสมองด้วยเทคโนโลยี AI นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากจุฬาฯ และ Agnos Health

cancer

มะเร็งปอด ภัยร้ายที่อยู่รอบตัว

เกี่ยวกับ Agnos

ติดต่อสอบถาม

บุคคลทั่วไป

ภาคธุรกิจ

สมัครร่วมทีม Agnos