AgnosHealth Logo

รวมญาติวันตรุษจีนยังไง…ไม่ให้เสียสุขภาพจิต

mental health

แก้ไขล่าสุด: 25 มกราคม 2566

เขียนโดย

Agnos Team

Agnos Team

แชร์

รวมญาติวันตรุษจีนยังไง…ไม่ให้เสียสุขภาพจิต

คำพูดที่อาจหลีกเลี่ยงในวันรวมญาติ

เชื่อว่าตรุษจีนปี 2565 นี้ เป็นอีกหนึ่งโอกาสดีๆของใครหลายคน ที่ได้กลับบ้านมาเจอครอบครัวและเครือญาติให้หายคิดถึง หลังจากห่างหายกันไปนานแต่ก็อาจมีบางส่วน ที่จะไม่ค่อยชอบงานเหล่านี้มากนัก

บางคนเชื่อว่างานรวมญาติ ไม่ว่าจะงานปีใหม่ หรือตรุษจีน มักมาพร้อมกับความกดดัน คำถามที่เหมือนจะหวังดี และคำพูดที่ชอบทำให้เราเสียกำลังใจและสุขภาพจิตอยู่เสมอ แล้วเราที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานวันนั้นควรจะทำยังไงให้ไม่ไปทำร้ายคนอื่น ?

วันนี้ Agnos จะพามาทำความเข้าใจกับประโยคที่อาจทำร้ายคนฟังแบบไม่รู้ตัว ฉบับรวมญาติวันตรุษจีนกัน !

เรามาเริ่มกันที่คำพูดสุดคลาสสิคกัน !

1.อ้วนขึ้นรึเปล่า..?

มาเจอกัยวันตรุษจีนทั้งที มาทักเรื่องน้ำหนัก เรื่อง น้ำหนักตัว ถือว่าเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากสำหรับบางคน แน่นอนว่าในปัจจุบันมีการรณรงค์เกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การรณรงค์ให้รักในรูปร่างตัวเอง หรือไม่ว่าจะรูปร่างแบบไหนก็สวยงามขอเพียงสุขภาพดี

บางคนอาจบอกว่าคนพูดอาจเพียงหยอกล้อด้วยความเอ็นดู เป็นสีสันเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่าพวกเขาอาจไม่ได้รู้สึกตลก หรือสนุกไปกับคำพูดเหล่านั้น

มีการศึกษาพบว่า เรื่องน้ำหนักตัว มีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับกลุ่มโรคอาการทางจิตเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล หรือกลุ่มโรคเกี่ยวกับการกินอาหารที่ผิดปกติ เช่น โรคคลั่งผอม (Anorexia) หรือ โรคล้วงคอ (Bulimia) เพราะฉะนั้นคำพูดเหล่านั้น อาจไม่ได้ตลกหรือสนุกแบบที่เราคิด

2. ยังไม่มีแฟนหรอ ? เมื่อไหร่จะมีลูก..?

แน่นอนว่าคำถามเหล่านี้ อาจเป็นเพียงการสอบถามหรือความอยากรู้จริงๆ ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดๆเลย แต่ในบางสถานการณ์ คำถามเหล่านี้อาจสร้างความกดดันให้ผู้ถูกถามก็ได้ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า คนๆนั้นอาจประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อยู่ก็ได้ เช่น อาจได้เลิกรากับคนรักไปแล้ว หรือพยายามมีลูกแล้วแต่ไม่สำเร็จ

แล้วถามยังไงดีล่ะ..?

เราอาจเลี่ยงคำถามเรานั้นและอาจมาถามคำถามเหล่านี้แทน

  • ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ?
  • ช่วงนี้มีแฟนอะไรพิเศษหรือเปล่า ?

หรือหากต้องการจะถาม สามารถบอกเพื่อให้ผู้ถูกถามเข้าใจในบริบทที่เราต้องการจะถาม เช่น ‘อันนี้ถามเพราะอยากรู้และเป็นห่วงจริงๆนะ แต่ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร’ หรือรอให้เขาเล่าขึ้นมาเอง

3.ว่างงานอยู่ไม่ใช่หรอ…ได้งานหรือยัง ?

การถามว่า ทำงานอะไรอยู่ ? หรือได้งานหรือยัง ? นั้น เป็นคำถามถึงการแสดงความอยากรู้และความเป็นห่วง โดยเฉพาะหากผู้ถูกถามเคยพูดถึงเรื่องเหล่านี้ให้คุณฟัง แต่การถามเพื่อประชดประชัน เช่น 5 เดือนแล้ว ยังไม่ได้งานอีกหรอ? ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาประชดประชัน แต่ถือว่าเป็นคำถามที่ไม่ค่อยสร้างสรรค์มากนัก

เราอาจหลีกเลี่ยงคำถามที่สร้างความกดดัน และลองให้คำแนะนำที่สร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ฟัง โดยไม่เป็นการยัดเยียดความคิดเห็นให้เป็นต้น

4.เข้าคณะนี้หรอ ? ทำไมไม่เข้าคณะนี้ล่ะ ดีกว่าอีก

และอีกเช่นเคย…การสอบถามเรื่องการเรียนเป็นอีกหนึ่งคำถามที่แสดงความห่วงใย แต่การเปรียบเทียบคณะโดยใช้มาตราฐานความคิดจองตัวเองนั้น อาจไม่ใช่สิ่งที่สร้างสรรค์มากนัก เช่นการเปรียบเทียบคณะที่ผู้ถูกถามเรียน และคณะที่ญาติคนอื่นๆเรียน และบอกว่าคณะของผู้ถูกถามอาจไม่ค่อยดีมากนัก


แล้วถามยังไงดีล่ะ..?

เราอาจเลี่ยงคำถามเรานั้นและอาจมาถามคำถามเหล่านี้แทน

  • เรียนสนุกมั้ย ? หรือเรียนยากมั้ย ?
  • เพื่อนๆเป็นยังไงบ้าง ?

นอกจากคำถามเหล่านี้..เราถามอะไรดีล่ะ ?

  • ปีนี้มีแผนอยากทำอะไร อยากได้อะไร หรือคาดหวังอะไรบ้าง ?

คำถามปลายเปิดแบบนี้ อาจทำให้ผู้ฟังแชร์เรื่องที่อยากพูดถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเรียน หรือการไปเที่ยว รวมถึงเรื่องเล็กน้อย และทั่วไปอย่างของที่อยากได้เป็นต้น

  • เป็นยังไงบ้าง มีความสุขหรือแฮปปี้ดีใช่มั้ย ? ฉันเอาใจช่วยเธออยู่นะ

อีกหนึ่งคำถามปลายเปิดที่ให้ผู้ฟังได้มีโอกาส เล่าเรื่องราวที่พวกเขาภูิใจ ไม่ว่าเป็นเรื่องอะไรก็ตาม นอกจากนี้ยังส่งต่อความห่วงใยจากคุณไปถึงผู้ฟังอีกด้วย !

  • คำชมต่างๆ

คำชม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยขนาดไหน แต่คำชมเล็กน้อยเหล่านั้น อาจสร้างรอยยิ้มให้คนฟังได้ไม่น้อย เช่น ตุ้มหูเข้ากับชุดมากๆเลย หรือวันนี้ชุดเข้ากับเธอมาก

  • การหาเรื่องสนุกคุย

นอกจากคำถามหรือคำชมอื่นๆแล้ว เราอาจสามารถชวนคุยเรื่องที่ทุกคนชอบ หรือสนใจ เช่น แชร์ประสบการณ์ไปเที่ยวของตัวเอง หรือร้านอาหาร คาเฟ่อร่อยๆเป็นต้น

สุดท้ายแล้ว การรวมญาติหรือการมาเจอกันควรจะส่งต่อสิ่งดีให้กัน และไม่ทำให้เราเสียสุขภาพจิตใดๆเลย !

Agnos ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกคน และสุขสันต์วันตรุษจีน ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง !

อีกหนึ่งของขวัญที่เราสามารถมอบให้ทุกคนคือ การที่ทุกคนสามารถมาวิเคราะห์อาการที่ไม่สบายใจเบื้องต้นได้ ฟรี 24 ชม. !

สุขสันต์วันตรุษจีน 新年快乐 !


เขียนโดย

Agnos Team

Agnos Team

แชร์

บทความนี้มีประโยช์นสำหรับคุณหรือไม่ ?

บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคหน้าร้อนที่เราต้องระวัง !

ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome)

4 โรคที่สาวๆวัย 20 ต้องระวัง !

มะเร็งปากมดลูก (CA cervix)ตรวจมะเร็งเต้านมมะเร็งรังไข่

5 โรคที่สาววัย 30 ต้องระวัง !

ภาวะหมดประจำเดือน/วัยทอง (Menopause)

5 โรคที่ผู้หญิงวัยทองต้องควรระวัง ?

เกี่ยวกับ Agnos

ติดต่อสอบถาม

บุคคลทั่วไป

ภาคธุรกิจ

สมัครร่วมทีม Agnos