ทั้งคัน ทั้งตกขาว…เชื้อราในช่องคลอดหรือเปล่า ?

เชื้อราในช่องคลอด คือ..? เป็นได้ยังไง ?

อาการคันและอาการตกขาวผิดปกติที่ไม่พึงประสงค์ของสาวๆหลายๆคน ถือได้ว่าเป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้เกิดการเสียชีวิตหรือโรครุนแรงอื่นๆ แต่ก็น่ารำคาญและกวนใจสาวๆ อยู่ไม่น้อย !

วันนี้ Agnos จะพามาทำความรู้จักกับโรคสุดฮิตของสาวๆ อย่าง ‘โรคเชื้อราในช่องคลอด’

ถือได้ว่าเป็นโรคที่สาวๆควรรู้ ! ต้องรู้ ! และต้องระวัง ! เพราะเราอาจจะเป็นโรคนี้แบบไม่รู้ตัวก็ได้นะ !

โรคเชื้อราในช่องคลอด คืออะไร ?

โรคเชื้อราในช่องคลอด (Vaginal Candidiasis) แน่นอนว่าต้องเกิดจากการติดเชื้อราภายในช่องคลอด และปากมดลูก โดยโรคนี้จะทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรงบริเวณน้องสาวของเรานั่นเอง

อาการของโรคเชื้อราในช่องคลอด

อาการของโรคเชื้อรามีตั้งแต่น้อยไปถึงรุนแรง ในบางรายอาจไม่แสดงอาการใดๆเลย แม้ว่าจะติดเชื้อราก็ตาม

• มีอาการคันและระคายเคืองบริเวณน้องสาว ไม่ว่าจะเป็นบริเวณปากมดลูกหรือภายในช่องคลอด
• บางรายอาจมีอาการแสบ ขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์
• น้องสาวมีอาการบวมหรือแดง โดยเฉพาะบริเวณภายในช่องคลอด
• มีการตกขาวที่ผิดปกติ เช่น ตกขาวมากเกินไป มีลักษณะตกขาวสีขาวข้น ตกขาวจับตัวเป็นก้อน หรือบางรายอาจเป็นน้ำสีใสๆ
• มีผื่นแดงขึ้น ทั้งภายในและนอกช่องคลอด อาจลามไปถึงต้นขาได้
  

นอกจากนี้โรคเชื้อราในช่องคลอดสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกด้วย

เชื้อราในช่องคลอดเกิดจากอะไร ?

โดยปกติแล้วเชื้อราจะอยู่ตามผิว อวัยวะเพศ ภายในช่องคลอดหรือระบบทางเดินอาหารของเราอยู่แล้ว แต่โรคเชื้อราในช่องคลอดเกิดจากการที่ช่องคลอดของเรา มีปริมาณเชื้อราที่มากเกินไปจากปัจจัยเหล่านี้

• การใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน เนื่องจากยาอาจทำให้ปริมาณแบคทีเรียดี หรือแลคโตบาซิลัสในช่องคลอดเสียสมดุล จนทำให้ปริมาณเชื้อราภายในช่องคลอดมากขึ้น
• การใช้ยาบางชนิด เช่นยาฮอร์โมน ยาคุม
• โรคหรือภาวะที่ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น การติดเชื้อHIV
• ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
• การตั้งครรภ์
• โรคทางผิวหนังอื่นๆ เช่น โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง
• การมีภาวะโรคอ้วน
• การสวนล้างช่องคลอดบ่อยๆ หรือการสวนล้างด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดน้องสาวบ่อยเกินไป
  
  

โรคเชื้อราในช่องคลอดหายเองได้มั้ย ?

หากมีอาการไม่รุนแรง สามารถหายเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งยาหรือการรักษาจากแพทย์ เพียงแค่ดูแลรักษาความสะอาด และไม่ทำให้บริเวณอวัยวะเพศอับชื้น

คันหรือตกขาว แค่ไหนไปหาหมอ ?

• หากมีอาการคันและตกขาวผิดปกติเป็นครั้งแรก สามารถใช้ยาเหน็บช่องคลอดเพื่อรักษาอาการคันหรือตกขาวให้หายก่อนได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามอาจควรไปพบแพทย์ เพื่อหาโรคอื่นๆเพิ่มเติม
  

หากยังไม่แน่ใจในอาการตัวเอง สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Agnos วิเคราะห์อาการเบื้องต้นด้วย AI ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการรักษาได้ ฟรี 24 ชม.

• หากติดเชื้อราในช่องคลอด 4 ครั้งหรือมากกว่าต่อปี ควรรีบพบแพทย์ เพื่อป้องกันอาการเรื้อรัง และตรวจเช็กให้มั่นใจว่าไม่ได้เป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน
  
• หากอาการไม่ดีขึ้นหลังจากรักษาหรือกลับไปเป็นซ้ำหลังจากรักษาไปได้ 2 เดือน
  
• มีอาการรุนแรงเป็นพิเศษ เช่น มีการบวมแดงมากที่บริเวณอวัยวะเพศ ผิวเป็นขุย อาจมีรอยแตกของผิว
  
• หากกำลังตั้งครรภ์อยู่แล้วมีอาการติดเชื้อราในช่องคลอด ควรพบแพทย์ก่อนซื้อยามาใช้เอง
  

โรคเชื้อราในช่องคลอดรักษายังไงได้บ้าง ?

โรคเชื้อราในช่องคลอดสามารถรักษาได้โดยการใช้ยาเป็นหลัก โดยสามารถใช้ได้ทั้งยารับประทานและยาใช้ภายนอก

• ยาใช้ภายนอก เช่น ยาทาหรือยาเหน็บ
  

• ยารับประทานอาจมีผลข้างเคียง เช่น ปวดหัว คลื่นไส้หรืออาเจียน
  
  
  

โรคเชื้อราในช่องคลอด เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มั้ย ?

โรคเชื้อราในช่องคลอด ไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพียงแต่การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเชื้อราในช่องคลอดได้

การป้องกันเชื้อราในช่องคลอด

• กินอาหารให้ครบ 5 หมู่และที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่สมดุล
• ไม่สวมกางเกงในหรือเสื้อผ้าที่คับ รัดจนทำให้เกิดการอับชื้น
• ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดบ่อยจนเกินไป
• หากมีประจำเดือนควรเปลี่ยนผ้าอนามัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการอับชื้น
• ไม่ใช้ยาปฏิชีวะหากไม่จำเป็น
  

อาการคันและตกขาวของน้องสาวเรา อาจเป็นอาการที่พบได้บ่อย การที่เรารู้ว่าอาการคันและตกขาวเหล่านั้นมีสาเหตึมาจากโรคหรือภาวะอะไรเนี่ย…อาจทำให้เราสามารถป้องกันได้ตรงจุดและระงับอาการเรื้อรังต่างๆได้

อาการคันและตกขาวอาจเป็นอาการที่ค่อนข้างทั่วไปเพราะฉะนั้นหากใครยังไม่มั่นใจว่าอาการที่เราเป็นอยู่นั้น อาจมีสาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Agnos เพื่อทำการวิเคราะห์อาการเบื้องต้นประกอบการตัดสินใจได้ ฟรี 24 ชม.

อ้างอิง :  https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/939/Candidiasis

https://beyondivf.com/vaginal-candidiasis

https://www.pobpad.com/

https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/june-2019/vaginal-candidiasis#causes

https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/knowledge_full.php?id=44

https://www.vejthani.com/th/2022/04