เกิดอะไรขึ้นถ้าเราจมน้ำ..?


เขียนโดย
หัวข้อ
ภาพทั้งหมด (2)
รู้หรือไม่ว่า

โดยทั่วไปแล้ว คนเราสามารถกลั้นหายใจในน้ำได้ประมาณ 30-45 วินาที (โดยไม่ได้สูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนหน้านี้) และหากสูดหายใจเข้าเต็มปอด บางคนอาจกลั้นได้ถึง 1นาทีครึ่ง - 2 นาทีเลยทีเดียว
ถึงแม้คนเราจะกลั้นหายในได้เกือบนาที แต่ ‘การจมน้ำ’ จะเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 4-6 นาทีเท่านั้น

จมน้ำ = น้ำลึก จริงมั้ย?
ไม่เสมอไป เราได้ยินข่าวอยู่ตลอดว่า คนจมน้ำในอ่างอาบน้ำ ซึ่งน้ำก็ไม่ได้ลึกเลย
ปริมาณของน้ำในในการทำให้ปอดหยุดทำงานนั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับ
- อายุ
- น้ำหนัก
- สุขภาพปอดของตัวบุคคล
มีวิจัยที่พบว่า เราสามารถจมน้ำได้ด้วย 1 มิลลิลิตรต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม(ของน้ำหนักตัวเอง) ดังนั้น คนที่มีน้ำหนักประมาณ 63.5 กก. อาจจมน้ำตายได้หลังจากได้รับน้ำเข้าไปในปอดเพียงหนึ่งในสี่ของแก้วเท่านั้น
ขึ้นจากน้ำแล้วก็มีสิทธิเสียชีวิต หากไม่ไปโรงพยาบาล
ไม่เพียงเท่านั้น คนเราสามารถเสียชีวิตได้จากการเกือบจมน้ำ แม้ว่าเราจะขึ้นมาจากน้ำแล้วและผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม
**ภาวะนี้เรียกว่า Secondary Drowning หรือ ภาวะแทรกซ้อนจากการจมน้ำ โดยหลังจากที่น้ำเข้าไปในปอด ทำให้ปอดบวมหรืออักเสบ ส่งผลให้ร่างกายแลกเปลี่ยนออกซิเจนและหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปได้ยากนั่นเอง
การจมน้ำนั้นเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ก็สามารถใช้เวลาถึง10-12 นาทีก่อนที่จะเสียชีวิต
(หากเด็กจมน้ำก็อาจเกิดขึ้นเร็วกว่านี้มาก)
เมื่อเราจมน้ำ..
- ในช่วงหลายวินาทีแรกหลังจากที่เราสำลักน้ำ หรือ ได้มีการสูด หรือ กลืนน้ำเข้าไป ร่างกายของเราจะเข้าสู่สภาวะ สู้หรือหนี (Fight or Flight)
**การสู้หรือหนี (Fight-or-Flight Response) หรือที่เรียกว่า การตอบสนองต่อความเครียดแบบฉับพลัน (Acute Stress Response) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความหวาดกลัวทางกายหรือทางจิตใจ ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อสมองหลั่งฮอร์โมนที่กระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวและเตรียมพร้อมที่จะสู้ หรือหนีเอาตัวรอดจากสถานการณ์เหล่านั้น
2. เมื่อทางเดินหายใจเริ่มปิด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปในปอดมากขึ้น บุคคลนั้นจะเริ่มกลั้นหายใจเองโดยไม่รู้ตัว สิ่งนี้เกิดขึ้นนานถึง 2 นาที จนกว่าพวกเขาจะหมดสติ และแน่นอนว่าผู้ที่จมน้ำจะไม่สามารถส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือได้ เนื่องจากหายใจไม่ออกนั่นเอง
3. พวกเขาจะหมดสติ ในระหว่างขั้นนี้ แต่ยังสามารถรอดได้ หากได้รับการช่วยชีวิตที่ทันเวลา การหายใจจะหยุดลงและหัวใจจะเต้นช้าลง ในขั้นนี้ อาจใช้เวลาหลายนาที
4. หลังจากนั้นร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ hypoxic convulsion หรือภาวะชักต่อเนื่องเกร็งกระตุกทั้งตัว และหากยังไม่มีออกซิเจนเข้าไป ร่างกายจะจะเริ่มมีสีน้ำเงิน และชักกระตุกไปมา
5. ภาวะสุดท้ายคือ สมอง หัวใจ และปอดนั้น อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้ สมองขาดออกซิเจน ตามด้วยการเสียชีวิตในที่สุด
การช่วยเหลือผู้ที่จมน้ำ (ยังอยู่ในน้ำ)
1.ช่วยเหลือแบบไม่ได้ลงน้ำ
- ตะโกนขอความช่วยเหลือ และโทรแจ้ง 1669 ทันที
- โยนอุปกรณ์ช่วยเหลือลงไปให้เกาะ เช่น ห่วงยาง ถังพลาสติก
- หาไม้ยาว หรือนำผ้ามาผูกกัน แล้วโยนให้ผู้ประสบภัย
2.ช่วยเหลือแบบลงน้ำ
**ต้องมีประสบการณ์และระมัดระวังอย่างมาก**
- ตะโกนขอความช่วยเหลือ และโทรแจ้ง 1669 ทันที
- นำอุปกรณ์ช่วยเหลือไปด้วย เช่น ห่วงยาง ผู้ช่วยสวมเสื้อชูชีพ มีเชือกและสิ่งที่ลอยน้ำได้ เช่น ถังพลาสติกให้ตัวเองเกาะด้วย
- เมื่อว่ายไปใกล้ถึงตัวผู้ที่จะจมน้ำ ให้ยื่นอุปกรณ์ช่วยเหลือให้
** ห้ามเข้าใกล้จนเกินไป เพราะผู้ที่จะจมน้ำอาจเกิดอาการตกใจ และเข้ามากอด และอาจทำให้จมลงไปทั้งสองคนได้ ในกรณีที่ผู้ที่จะจมน้ำเข้ามากอด ให้เราดำน้ำลงก่อน เพื่อสลัดตัวคนที่มากอดออก**
การช่วยเหลือผู้ที่จมน้ำ (หลังจากขึ้นมาจากน้ำแล้ว - หมดสติ)
- โทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินทันที โทรแจ้งหมายเลข 1669 ทันที หรือ หน่วยพยาบาลใกล้เคียงโดยเร็ว
- สำรวจผู้ที่ตกน้ำ ว่าเขาตอบสนองเรามั้ย เขายังหายใจอยู่หรือไม่ และมองหาอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (หากมี) หรือให้คนอื่นไปช่วยหา
** ห้ามทิ้งผู้ที่จมน้ำไว้คนเดียว - ทำการ CPR โดยนั่งคุกเข่า เอามือวางไว้กระดูกหน้าอกที่อยู่ตรงกลางหน้าอก นำมืออีกข้างวางไว้บนมือก่อนหน้านี้ เหยียดแขนตรง และกดลงไปประมาณ 5-6 ซม. ทำเช่นนี้ในอัตรา 100-120 ครั้งต่อนาที (ไม่ต้องเป่าปาก สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการ์ณ)
ในกรณีที่ผู้ช่วยเหลือมีประสบการ์ณสามารถทำการ กดหน้าอก 30 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 2 ครั้ง. ** ห้ามวางมือไว้ตรงบริเวณซี่โครง** - ทำไปเรื่อยๆ จนกว่า ทีมช่วยเหลือจะมา หรือ ผู้บาดเจ็บเริ่มรู้สึกตัว
การทำ CPR อาจใช้แรงเยอะ สามารถสับเปลี่ยนกับผู้อื่นได้ แต่ไม่ควรทิ้งระยะห่างนาน ในระหว่างการสับเปลี่ยน - หากเริ่มรู้สึกตัว ควรจะให้ผู้ได้รับบาดเจ็บนอนตะแครง(ทั้งตัวและหัว) เพื่อให้หายใจสะดวกมากขึ้น
- ทำร่างกายของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้อบอุ่น
**ถึงแม้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จะรู้สึกตัวแล้ว ห้ามทิ้งไว้คนเดียวเด็ดขาด จนกว่าทีมช่วยเหลือจะมาถึง**
การช่วยเหลือผู้ที่จมน้ำ (หลังจากขึ้นมาจากน้ำแล้ว - ได้สติ)
- ทำร่างกายให้อบอุ่น โดย เช็ดตัว หรือ เปลี่ยนเสื้อผ้า
- ถึงแม้จะได้สติ ต้องนำส่งโรงพยาบาลทุกราย
อ้างอิง :
https://www.healthline.com/health/how-long-does-it-take-to-drown#summary
https://www.draperlawoffice.com/the-stages-of-drowning/
https://www.medilexinc.com/a-spoonful-of-medicine-blog/the-process-of-drowning
https://www.bangkokbiznews.com/social/990564
https://www.niems.go.th/1/News/Detail/905?group=6
https://www.sja.org.uk/get-advice/first-aid-advice/breathing-difficulties/drowning/






