AgnosHealth Logo

โรคฮิตที่ติดมาจากสงกรานต์ !

covid19

แก้ไขล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2566

เขียนโดย

Agnos Team

Agnos Team

แชร์

เชื่อว่าหลายๆคนคงจะตื่นเต้นกับสงกรานต์ปีนี้ไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือชาวต่างชาติ คงจะตั้งตารอการเล่นน้ำสงกรานต์นี้กันแน่ๆ !

แต่รู้หรือไม่ว่าการไปเล่นน้ำสงกรานต์ครั้งนี้ เราจะเสี่ยงโรคอะไรบ้างล่ะ ? แล้วเราจะป้องกันอาการหรือโรคเหล่านี้ยังไงได้บ้างล่ะ ?  

วันนี้ Agnos จะพามาดู 4 โรค ที่อาจมาพร้อมกับสงกรานต์

การไปเล่นน้ำสงกรานต์หรือเที่ยวสงกรานต์ในฤดูร้อนของประเทศไทยเราเนี่ย อาจมีความเสี่ยงมากกว่าที่เราคิด เพราะอากาศอาจร้อนได้ถึง 40 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว จึงอาจทำให้เราเสี่ยง ‘โรคลมแดด’ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

1.โรคลมแดด

โรคลมแดด หรือ Heat stroke คือภาวะที่ร่างกายของเรา มีอุณหภูมิมากกว่า 40 องศาเซลเซียส แน่นอนว่าเกิดจากการที่ไปอยู่ในที่ๆมีอุณหภูมิ หรือการออกไปอล่นน้ำสงกรานต์ท่ามกลางแดดร้อนเป็นเวลานาน และอาจทำให้ร่างกายไม่สามารถขับความร้อนออก หรือปรับให้อุณหภูมิลดลงได้ เป็นภาวะที่อาจทำให้เราเสียชีวิตได้อีกด้วย


สาเหตุของและปัจจัยที่ทำให้เกิด โรคลมแดด

  • อยู่ในที่ๆร้อนจัด
  • การใส่เสื้อผ้าที่ไม่สามารถระบายเหงื่อ หรือความร้อนได้ดี
  • การออกกำลังกายอย่างหนัก
  • การดื่มน้ำน้อย หรือร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ
  • การกินอาหารน้อย
  • การดื่มแอลกอฮอล์


อาการของ โรคลมแดด

  • ตัวร้อน หรืออุณหภูมิในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
  • มีความผิดปกติในการสื่อสาร เช่น พูดช้า พูดไม่รู้เรื่อง หรือเพ้อ
  • สับสน
  • ชัก
  • ลุกลี้ลุกลน
  • หมดสติ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • เหนื่อย หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว
  • ปัสสาวะสีเข้ม
  • อาจเกิดอาการไตวายได้

โดยผู้ป่วยบางรายอาจมีตัวที่ร้อนจัด แต่ไม่มีเหงื่อออก เนื่องจากต่อมเหงื่อทำงานผิดปกตินั่นเอง


วิธีรักษาโรคลมแดด

หากรู้สึกเหมือนว่าเริ่มมีอาการเวียนหัว รู้สึกร้อน หรือจะเป็นลมท่ามกลางแดด ควรรีบหลบมาในที่ร่ม

  • หากสวมเสื้อคลุม ควรถอดออก
  • ดื่มน้ำ หรือเกลือแร่
  • นำน้ำมาพรมตามข้อพับ หรือขาหนีบ
  • เปิดพัดลม หรือแอร์


ถ้าทราบว่าตัวเอง หรือคนใกล้ตัว อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคลมแดด เช่น มีโรคประจำตัว สูงอายุ ทานยาที่มีความเสี่ยง รูปร่างอ้วน ควรสังเกตอาการตัวเองและคนรอบข้างอย่างสม่ำเสมอ

ถ้าเริ่มมีอาการที่เข้าได้กับโรคลมแดด ควรรีบปฐมพยาบาลตนเองเบื้องต้น รีบไปโรงพยาบาลทันที หรือโทรเบอร์ 1669 ก่อน (หากอาศัยอยู่ในกทม. โทร 1646)

เพราะฉะนั้นหากต้องการเล่นน้ำสงกรานต์ก็อย่าลืมพักจิบน้ำ กินข้าว กินของว่างกันบ้าง !



2.โรคเชื้อรา (เชื้อราที่ผิวหนัง)

เป็นอีกหนึ่งอาการที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆและสร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วยอยู่ไม่น้อย โดยเชื้อราที่ผิวหนัง สามารถเกิดขึ้นที่ส่วนไหนก็ได้ตามร่างกายของเรา และสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง

สาเหตุของและปัจจัยที่ทำให้เกิด  เชื้อราที่ผิวหนัง

โดยปกติแล้วเชื้อราอาศัยอยู่ตามที่ต่างๆอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นของใช้ทั่วไป พื้น ผนัง หรือน้ำสงกรานต์ที่ใช้สาดกัน ซึ่งการติดเชื้อ เกิดจากการสัมผัสเชื้อรานั้นโดยตรง บวกกับการที่เราอยู่ในสภาพหรือเสื้อผ้าที่อับชื้นและสกปรกเป็นเวลานาน


โรคและอาการที่เกี่ยวข้องกับกับเชื้อราบนผิวหนัง ที่อาจเกิดขึ้นได้


  • กลาก (Ringworm)



Image credit : https://www.spu.ac.th/department/sports/aw/346/


โดยผู้ติดเชื้ออาจมีอาการผื่นคันบริเวณที่ติดเชื้อ อาจมีอาการบวมแดงหรือเป็นขุยสีขาวด้วย กลากสามารถขึ้นได้เกือบทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น มือ เท้า เล็บ หรือบนหัวของเราก็ตาม


กลาก เกิดจากการติดเชื้อเชื้อราที่อาจอยู่ตามร่างกายของคนหรือสัตว์ รวมถึงบนของใช้อื่นๆทั่วไปที่เราสัมผัส


การรักษา กลาก

กลากสามารถรักษาได้ด้วย ยาต้านเชื้อรา ทั้งชนิดทาและชนิดกินและสามารถดูแลตัวเองได้ดังนี้

  • ทาครีม หรือโลชั่น ป้องกันผิวแห้ง
  • กินยาแก้แพ้ และบรรเทาอาการคัน
  • หลีกเลี่ยงการเกา
  • ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้สะดวก
  • หากมีเหงื่อออกเยอะไม่ควรปล่อยให้หมักหมมไว้นาน ควรรีบทำความสะอาด


  • เกลื้อน (Tinea Versicolor)


Image credit : https://www.spu.ac.th/department/sports/aw/346/

เกลื้อนจะมีลักษณะเป็นดวงเล็ก ๆ อาจมีสีแดง ชมพู หรือน้ำตาล อาจมีสีเข้มหรืออ่อนกว่าผิวหนังบริเวณรอบๆการติดเชื้อ

ผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อจะแห้ง ตกสะเก็ด และคัน โดยโรคเกลื้อนเกิดจากเชื้อมาลาสซีเซีย (Malassezia) โดยผิวหนังของเราทุกคนมีเชื้อรามาลาสเซียอยู่แล้ว แต่หากมีจำนวนมากเกินไป อาจทำให้เกิดเกลื้อนได้

อะไรทำให้เชื้อราบนผิวของเราเยอะกว่าปกติ ?

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  • เหงื่อ
  • สภาพผิวมัน
  • อาการร้อน
  • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

การรักษาเกลื้อน

จริงๆแล้ว เกลื้อนสามารถหายเองได้ แต่หากต้องการรักษา สามารถทำได้ดังนี้

  • ครีมอาบน้ำ หรือแชมพูขจัดเชื้อรา
  • ครีมหรือเจลขจัดเชื้อรา
  • ยาต้านเชื้อรา
  • เชื้อราที่เท้า


เชื้อราที่เท้า หรืออีกชื่อที่เราคุ้นเคย คือ ฮ่องกงฟุต โดยผู้ป่วยจะมีอาการคัน มีผื่นแดง บริเวณเท้า หรือตามง่ามนิ้วเท้า ในบางรายอาจมีตุ่มหรือแผลอีกด้วย


ฮ่องกงฟุตเกิดจากการที่เราอาจมีเหงื่อที่เท้ามากเกินไป หรือเท้าอยู่ในสภาพที่อับชื้นเป็นเวลานาน


ฮ่องกงฟุตสามารถติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสโดยตรง หรือการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่นถุงเท้าหรือรองเท้า เป็นต้น



3.ผิวหนังไหม้แดด

คงเป็นอีกหนึ่งภาวะที่เลี่ยงได้ยากในช่วงสงกรานต์ที่อาจร้อนได้ถึง 40 องศสเซลเซียสเลยทีเดียว

ผิวหนังไหม้แดด เป็นภาวะที่ผิวของเราเกิดการอักเสบ แสบร้อน และแดง ที่เกิดจากการได้รับแสงแดด หรือรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี)


ผิวไหม้แดดสามารถเกิดจากรังสียูวีเทียมได้เช่นกัน เช่น หลอดไฟยูวี เป็นต้น


อาการของผิวไหม้แดด

อาการอาจแสดงเมื่อโดดแดดไปประมาณ 2-6 ชั่วโมง

  • มีอาการแสบผิว รู้สึกเจ็บ
  • ผิวแดง ผิวอักเสบ
  • ผิวลอก
  • ผิวไหม้
  • บางรายอาจมีตุ่มพอง

นอกจากนี้การอยู่ท่ามกลางแดดเป็นเวลานาน นอกจากจะทำร้ายผิวแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองตา และแสบตาด้วย


การรักษาและป้องกันผิวไหม้แดด

โดยทั่วไปผิวไหม้แดดสามารถหายได้เอง ภายใน 1 วัน แต่หาก 2-3 วันยังไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์


  • นำผ้าชุบน้ำเย็นมาประคบลงบนผิว แต่ไม่ควรเป็นน้ำเย็นจัด
  • ทาครีม หรือเจลว่านหางจรเข้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว
  • ทาครีมกันแดด
  • ไม่ควรขัดผิว หรือถูแรงๆ
  • ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ
  • หากมีตุ่มพองขึ้น ควรปล่อยให้มันแตกหรือหายเอง และล้างทำความสะอาดแผลให้สะอาด
  • หลีกเลี่ยงแดด และอยู่ในที่ร่ม
  • ใส่เสื้อผ้าที่ไม่บางจนเกินไป และสามารถป้องกันผิวของเรา จากแสงยูวีได้


4.ผื่น หรือผื่นแพ้

ผู้ป่วยจะมีอาการผื่นแดง มีอาการคัน ผิวแห้ง เป็นขุย บางครั้งอาจมีร่องแตกตามผิวหนังจนทำให้เกิดอาการเจ็บได้ นอกจากนี้ หากผิวนั้นบริเวณนั้นๆมีการติดเชื้อแบคทีเรีย อาจทำให้มีมีตุ่มน้ำเล็กๆ ตุ่มหนอง หรือผื่นบวมแดง ที่มีน้ำเหลืองเป็นต้น


มีผื่นแพ้หลังเล่นน้ำสงกรานต์ รักษายังไงดี ?

  • รักษาความสะอาดบริเวณที่ผื่นขึ้นเป็นพิเศษ เช่น หลังเล่นสงกรานต์ควรทำความสะอาดร่างกายทันที
  • ใช้ครีมอาบน้ำ หรือครีมที่อ่อนโยนต่อผิว
  • สามารถซื้อยาแก้แพ้จากร้านขายยามากินดูอาการก่อนได้ หรือทายารักษาผื่น (ตามคำสั่งเภสัช หรือ แพทย์)
  • ไม่เกา หรือขัดบริเวณผื่น
  • หากรู้สาเหตุหรือต้นตอของการเกิดผื่น ควรหลีกเลี่ยงทันที
  • ทาครีม หรือเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว
  • หลีกเลี่ยงความร้อน ไม่ว่าจะเป็นอากาศ หรือการอาบน้ำร้อน



5. ไข้หวัด

เป็นอีกหนึ่งโรคที่เราพลาดไม่ได้เลย..คือโรคไข้หวัด หรือ Common cold

ไข้หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่บริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น และยิ่งในช่วงสงกรานต์ที่มีความร้อนและชื้นสูง รวมถึงผู้คนมากมายที่ต้องเบียดและใกล้ชิดกัน อาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น


ไข้หวัดสามารถติดกันได้หลายทางมาก ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสเชื้อไวรัสโดยตรง เช่น เมื่อมีเชื้อหวัดติดที่มือ และไปสัมผัสผู้อื่น หรือ เมื่อนำไปขยี้ตาหรือแคะจมูกก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ รวมถึงสามารถติดผ่านน้ำลาย เสมหะ น้ำมูก การไอ รวมถึงการหายใจรดกันอีกด้วย


อาการของ ไข้หวัด

ในช่วง 2-3 วันแรก อาจมีอาการรุนแรงเล็กน้อย แต่จะค่อยๆทุเลาลง โดยส่วนมาก โรคไข้หวัดจะมีอาการประมาณ 7-14 วัน อาการที่พบได้บ่อย เช่น

  • เจ็บคอ
  • น้ำมูกไหล
  • คัดจมูก หายใจไม่สะดวกเนื่องจากจมูกบวม มีน้ำมูกอุดตันภายในจมูก
  • ไอ (มีหรือไม่มีเสมหะก็ได้)
  • จาม
  • เสียงแหบ
  • ไข้ต่ำ


การรักษา

ถึงแม้ไข้หวัดจะเป็นโรคที่ไม่มียารักษาโดยตรง แต่ไข้หวัด สามารถหายเองได้เอง หากดูแลตัวเองได้ถูกต้อง เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื้มน้ำให้เพียงพอ รวมถึงการกินอาหารที่มีประโยชน์ด้วย


นอกจากนี้ ไข้หวัดสามารถกินยาได้ตามอาการได้ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้คัดจมูก ยาลดน้ำมูก และยาแก้ไอ


6. โควิด 19

ถึงแม้หลายๆประเทศได้ยกเลิกมาตราการโควิด 19 และได้คลายความกังวลเกี่ยวกับโควิดไปมากแล้ว แต่ในช่วงสงกรานต์นี้ มีผู้ติดโควิด เพิ่มขึ้นถึง 159%

โดยหากเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อของวันที่ 2-8 เมษายน กับ 9-15 เมษายน จะพบว่า ผู้ติดเชื้อ (จากการตรวจ PCR) เพิ่มขึ้น 159% จากอาทิตย์ละ 168 คน เป็น 435 คนนั่นเอง

โควิด 19 สายพันธุ์หลักที่อยู่ใน ยังคงเป็น สายพันธุ์โอมิครอน แต่มีการพบสายพันธุ์ย่อยใหม่เข้ามาแล้ว คือ XBB.1.16 ซึ่งตรวจพบแล้วถึง 6 ราย

ถึงแม้จำนวนของผู้เสียชีวิตจะคงที่ แต่จำนวนตัวเลขที่เพิ่มมากขึ้น และอาจมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นนี้อาจน่ากังวลอยู่ไม่น้อย

อาการของโควิด 19 (โอมิครอน)

โอไมครอนสามารถติดซ้ำได้ แต่ส่วนมากเชื้อจะอยู่ที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้ไม่ลงปอด ผู้ป่วยจึงมีอาการไม่รุนแรงนั่นเอง

  • ไม่ได้สูญเสียการได้กลิ่นหรือรส
  • ไม่ค่อยมีไข้ หรือไข้ต่ำ
  • ไอต่อเนื่อง
  • มีอาการเจ็บคอ
  • อาจรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อย
  • หากอาการุนแรง อาจมีอาการปอดอักเสบ

การรักษา

หากมีอาการไม่รุนแรงและได้รับวัคซีนแล้ว อาจสามารถหายเองได้ และสามารถรักษาตามอาการได้ เช่น หากมีไข้ อาจกินยาลดไข้ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังสามารถกินยาต้านไวรัสได้ ปัจจุบันยาต้านไวรัสที่ใช้ในประเทศไทย คือ ยาต้านไวรัส Favipiravir ใช้ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวหรือสีเหลืองที่มีอาการไม่มาก และ ยาต้านไวรัส Remdesivir อาจพิจารณาให้ใช้รักษากลุ่มผู้ป่วยอาการปานกลาง และอาการรุนแรง

***การใช้ยาควรอยู่ในการดูแลของแพทย์

แน่นอนว่าเราทุกคนล้วนตื่นเต้นกับการเที่ยว และสงกรานต์ปีนี้อย่างมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ควรจะมองข้ามอาการเล็กน้อยที่เกิดขึ้นกับตัวเองเพราะฉะนั้น การสังเกตอาการตัวเองและคนใกล้ตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย


สงกรานต์ปีนี้ Agnos อยากส่งต่อสุขภาพที่ดีให้กับทุกๆคน โดยหากใครมีอาการที่กังวลใจใดๆ สามารถดาวน์โหลดและเข้าไปเช็กอาการเบื้องต้นได้ในแอปพลิเคชัน Agnos


นอกจากนี้ทาง Agnos ยังมีโปรแกรมตรวจสุขภาพราคาย่อมเยาเริ่มต้นเพียง 1,399 บาทอีกต่อ


สงกรานต์ปีนี้ ส่งต่อสุขภาพที่ดีให้กันนะ




อ้างอิง :

https://hellokhunmor.com

https://www.pobpad.com/

https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/october-2021/atopic-dermatitis

https://www.demedclinic.com/content/5882/

https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/1536343

https://www.pobpad.com/เกลื้อน

https://www.bumrungrad.com/th/conditions/allergic-contact-dermatitis

https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/448

https://www.pobpad.com/ไข้หวัด

https://www.blockdit.com/posts/643d0489d364ae42ff763870

เขียนโดย

Agnos Team

Agnos Team

แชร์

บทความนี้มีประโยช์นสำหรับคุณหรือไม่ ?

บทความที่เกี่ยวข้อง

AgnosITCAInsuretech

Agnos Health คว้ารางวัล ชนะเลิศจากงาน Insuretech Connect Asia Awards in Thailand และเป็นตัวแทนในการแข่งขันระดับนานาชาติ ที่งาน ITC Asia 2024 ณ ประเทศสิงคโปร์

Agnos Health นำ AI ตรวจโรคด้วยตนเอง เข้าร่วมเสนอไอเดียในรายการ Win Win WAR Thailand สุดยอดนักธุรกิจแบ่งปัน เพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในระบบสุขภาพไทย

ตรวจสุขภาพสมองBrainDi

BrainDi พลิกโฉมการตรวจสุขภาพสมองด้วยเทคโนโลยี AI นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากจุฬาฯ และ Agnos Health

cancer

มะเร็งปอด ภัยร้ายที่อยู่รอบตัว

เกี่ยวกับ Agnos

ติดต่อสอบถาม

บุคคลทั่วไป

ภาคธุรกิจ

สมัครร่วมทีม Agnos