แก้ไขล่าสุด: 15 มิถุนายน 2565
เขียนโดย
Agnos Team
แชร์
ทำไมกินเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอิ่ม..? ทำไมหิวทุก 2-3 ชั่วโมง? ทำไมรู้สึกอิ่ม แต่ยังอยากกินอยู่..?
คำถามทำไมเหล่านี้ อาจบ่งบอกถึงโรคอะไรบางอย่าง ที่เราคิดไม่ถึงอย่าง ‘โรคกินไม่หยุด หรือ Binge Eating Disorder’ ก็ได้
โดยโรคนี้จะมีอาการคือ ผู้ป่วยจะกินอาหารเข้าไปในปริมาณมาก แม้ไม่หิวก็ตาม กินไม่หยุด ควบคุมตัวเองตอนกินอาหารไม่ได้ โรคกินไม่หยุดสามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย แต่พบได้มากในช่วงวัยรุ่นตอนปลายหรือช่วงอายุ 20 ตอนต้น และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนั่นเอง
ความถี่ของอาการจะเป็นตัวบ่งบอกถึงความรุนแรงของโรค
อาการไม่รุนแรง : 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์
อาการรุนแรง : มากกว่า 3 ครั้ง บางรายอาจมากถึง 14 ครั้งขึ้นไปต่อสัปดาห์
*** หากมีพฤติกรรมแบบนี้ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลาต่อเนื่องกัน 3 เดือน ก็เข้าข่ายโรคกินไม่หยุดด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ความผิดปกติทางอารมณ์ก็เป็นหนึ่งในอาการที่มีร่วมด้วย โดยผู้ป่วยอาจมีอาการ
แล้วโรคกินไม่หยุด มันเกิดจากอะไรกันแน่ และใครบ้างที่เข้าข่าย..?
ผู้ที่เป็นโรคนี้มักกินในปริมาณมากกว่าปกติ และไม่สามารถควบคุมตัวเองให้หยุดได้กินได้ แม้จะอิ่มแล้วหรือไม่รู้สึกหิวก็ตาม แต่จะหยุดก็ต่อเมื่อรู้สึกอิ่มจนไม่สบายตัวหรือไม่สามารถรับกินต่อได้ นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรมที่สามารถกินอาหารเยอะมากๆอย่างรวดเร็ว
ข้อสังเกตอีกอย่าง คือ ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมที่จะลดความอ้วน ออกกำลังกายอย่างหนัก ใช้ยาระบาย หรือล้วงคออ้วก ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้มักเป็นอาการของโรคคลั่งผอม (Anorexia) และโรคล้วงคอ (Bulimia) รวมไปถึงผู้ป่วยอาจจะมีพฤติกรรมที่กักตุนอาหารไว้ในที่ต่าง ๆ ใกล้ตัว
เชื่อกันว่าเกิดจากภาวะไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความหิวที่หลั่งออกมามากผิดปกติ
ในปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคนี้ แต่คาดว่ามีหลายปัจจัยหลายอย่างที่เพิ่มความเสี่ยง :
ผู้ป่วยจะถูกส่งตัวไปยังแพทย์เฉพาะทาง เพื่อได้รับการรักษาที่ตรงกับอาการสาเหตุของโรคมากที่สุด
การใช้ยา
โรคกินไม่หยุด จัดว่าเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่ง แพทย์อาจสั่งยาต้านเศร้า หรือยากันชักที่มักใช้รักษาโรคทางจิตชนิดอื่น ๆเพื่อรักษาและปรับสมดุลเคมีในสมอง ถึงแม้การใช้ยาจะเห็นผลเร็ว แต่แน่นอนว่าต้องมาพร้อมความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของยา ผู้ป่วยจึงต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
จิตบำบัด
การเข้ารับการรักษาแบบจิตบำบัดจะช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมพฤติกรรมและอารมณ์ด้านลบที่ส่งผลต่ออาการได้
โดยแบ่งออกเป็น 3 อย่าง
Cognitive Behavioural Therapy (CBT)
เป็นการบำบัดทำให้ผู้ป่วยเข้าใจสาเหตุของอารมณ์และพฤติกรรมด้านลบที่ทำให้เกิดอาการ รวมทั้งเรียนรู้วิธีควบคุมอีกด้วย
Interpersonal Psychotherapy (IPT)
เป็นการบำบัดที่ช่วยรักษาอาการ ที่มีสาเหตุมาจากปัญหาความสัมพันธ์ของผู้ป่วยกับคนรอบข้าง ที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อผู้ป่วย เช่น การสูญเสีย หรือ การหย่าร้างเป็นต้น
Dialectical Behaviour Therapy (DBT)
เป็นการบำบัดเพื่อมุ่งเน้นให้ผู้ป่วยตระหนักรู้ถึง สาเหตุและอาการ มีความอดทนต่อความรู้สึกด้านลบ การจัดการอารมณ์และการพัฒนามนุษย์สัมพันธ์
ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีป้องกันที่แน่ชัด ทำได้เพียงลดปัจจัยดสี่ยงหรือแนวโน้มที่จะเกิดเท่านั้น
การกินอาการเยอะในบางโอกาส แน่นอนว่าเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นการสังสรรค์ หรือกินบุฟเฟต์ให้รางวัลตัวเอง แต่หากเริ่มมีสัญญาณข้างต้นเมื่อไหร่ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กทันที
หากมีอาการไม่พึงประสงค์ ลองโหลดเรา Agnos แอปพลิเคชั่นเช็กอาการป่วยได้ทุกที่ ทุกเวลา เสมือนมีเพื่อนเป็นหมอ!
อ้างอิง :
https://www.pobpad.com/binge-eating-disorder
https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/Binge-Eating-Disorder
เขียนโดย
Agnos Team
แชร์
บทความนี้มีประโยช์นสำหรับคุณหรือไม่ ?